เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 67 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ตนนำคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ เดินทางเยือนประเทศญี่ปุ่น เพื่อหารือกับภาคเอกชนรายใหญ่ของญี่ปุ่นชวนมาทำการค้าและการลงทุนในไทย รวมไปถึงจัดกิจกรรมส่งเสริมภาพลักษณ์ โปรโมตซอฟต์พาวเวอร์ของไทยให้เข้าไปอยู่ในใจคนญี่ปุ่นมากขึ้น เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ตนได้มีโอกาสหารือกับ Mr.HAYASHI Yoshimasa, Chief Cabinet Secretary และ Mr.Taro KONO สส .จังหวัดคานางาวะ อดีตรัฐมนตรีดิจิทัลของญี่ปุ่น ซึ่งทั้งคู่เป็นนักการเมืองที่มีบทบาทสำคัญในญี่ปุ่น ในประเด็นความร่วมมือระหว่างไทยกับญี่ปุ่นในอุตสาหกรรมใหม่ ที่ญี่ปุ่นกำลังจะมีการลงทุนเพื่อสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และปัญญาประดิษฐ์ (AI) ของญี่ปุ่นในช่วง 10 ปีข้างหน้า โดยจะทุ่มงบประมาณมากกว่า 10 ล้านล้านเยน (2.2 ล้านล้านบาท) ซึ่งไทยต้องการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในซัพพลายเชนของญี่ปุ่น
การเดินทางเยือนกรุงโตเกียวในครั้งนี้ ตนได้พบกับนักลงทุนรายใหญ่ 10 กว่าราย ทั้ง GS Yuasa International, Extrabold Corporation, Hitachi, Scheme Verge, SIIX, Mitsubishi Electric Corporation และ Softbank เป็นต้น รวมถึง JETRO, JICA, แบงก์กรุงเทพในญี่ปุ่น สำนักงาน BOI โตเกียว โดยได้ชวนให้มาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ตนยังได้มีโอกาสหารือกับนักการเมืองคนสำคัญของญี่ปุ่น อย่าง Mr.HAYASHI Yoshimasa, Chief Cabinet Secretary และ Mr.Taro KONO สส.จังหวัดคานางาวะ อดีตรัฐมนตรีดิจิทัลของญี่ปุ่น โดยทั้งคู่มีโอกาสที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำของญี่ปุ่นได้ในอนาคต โดยเฉพาะ Mr. HAYASHI เลขาธิการของคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นตำแหน่งที่สำคัญมากในทางการเมืองของญี่ปุ่น เนื่องจากทางญี่ปุ่นกำลังมีแผนที่จะลงทุนในอุตสาหกรรมใหม่ กว่า 10 ล้านล้านเยน (2.2 ล้านล้านบาท) ภายใน 10 ปี ไทยจึงต้องเร่งแสวงหาโอกาสให้ประเทศไทยได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของซัพพลายเชนที่กำลังจะมีเม็ดเงินลงทุนมหาศาลของญี่ปุ่น
จากการหารือกับนักการเมืองคนสำคัญทั้งสองคน ต่างเห็นความสำคัญของการหารือและให้ค่ากับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก ได้พูดคุยกันในเรื่องอุตสาหกรรมใหม่อย่าง PCB เซมิคอนดักเตอร์ และ AI ที่รัฐบาล โดยการนำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น ให้มีความพร้อมและเร่งดึงดูดนักลงทุนรายใหญ่จากทั่วโลกมาสู่ประเทศไทย เชื่อว่าอนาคตอุตสาหกรรม PCB ที่ผลิตในประเทศไทย จะมีศักยภาพทั้งเรื่องของราคา ปริมาณ และคุณภาพ สามารถแข่งขันได้ในระดับโลก
โดยในการหารือทางญี่ปุ่นเห็นศักยภาพและให้คุณค่ากับความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศที่ดีระหว่างกันมาโดยตลอด พร้อมรับปากที่จะให้ไทยมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของซัพพลายเชน ซึ่งตนได้บอกว่ารัฐบาล และกระทรวงพาณิชย์ พร้อมที่จะให้การสนับสนุนการลงทุนของญี่ปุ่นอย่างเต็มที่ ให้ญี่ปุ่นเป็นนักลงทุนอันดับ 1 ของไทยต่อไป แม้จะมีบางช่วงที่การลงทุนหดหายไป แต่หลังจากที่มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง การลงทุนจากญี่ปุ่นก็ฟื้นกลับมา เป็นโอกาสที่ดีของไทยที่จะเร่งปรับตัวคว้าทุกโอกาส เพื่อทำรายได้เข้าประเทศ