จากกรณี เจ้าหน้าที่สนามบินอิสตันบูล ประเทศตุรกี สามารถตรวจยึด “ลูกกอริลลา” สัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ ถูกขังอยู่ภายในลังไม้ หลังมีผู้โดยสารแอบลักลอบนำเข้า จากเที่ยวบินประเทศไนจีเรีย โดยมีปลายทางไปยัง กทม. ประเทศไทย ต่อมาศาลได้อนุมัติหมายค้นให้ กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่งซึ่งเป็นฟาร์มเลี้ยงสัตว์อยู่ใน จ.นครปฐม เพื่อดำเนินการรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดตรวจสอบหาข้อเท็จจริง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ธ.ค. พล.ต.ต.วัชรินทร์ พูสิทธิ์ ผบก.ปทส. เปิดเผยเพิ่มเติมว่า การกระทำความผิดของขบวนการแอบลักลอบนำสัตว์คุ้มครองเข้าประเทศนั้น จะสังเกตได้ว่ามีการเตรียมสถานที่รองรับสัตว์จำพวกนั้น โดยจะมีผู้สั่งนำเข้าจะเป็นผู้กำหนดมาว่า จะให้นำส่งที่ไหน มาพักสัตว์ไว้ที่ไหน ก่อนที่จะใช้วิธีเคลื่อนย้ายโดยการขนด้วยตนเองหรือบริษัทขนส่ง ซึ่งในคดีกอริลลานี้ เป็นการเคลื่อนย้ายด้วยเครื่องบิน ทำให้เชื่อได้ว่ามีเจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐเข้ามาเกี่ยวข้องกับขบวนการดังกล่าว

สุดอึ้ง! เปิดราคา ‘ลูกกอริลลา’ สัตว์เลี้ยงเศรษฐี ตำรวจพบพิรุธเจ้าของฟาร์มปิดโทรศัพท์หนี

นอกจากนี้ รายชื่อผู้สั่งนำเข้าถูกลบออกจากข้อมูลซึ่งเป็นไปไม่ได้ ซึ่งทางตัวเจ้าของฟาร์มหากบริสุทธิ์ใจจริงก็น่าจะเดินทางเข้ามาให้ข้อมูลกับทางตำรวจในเรื่องต่างๆ ที่ทางตำรวจยังสงสัย โดยเฉพาะในแต่ละรอบปีได้มีการนำสัตว์นำเข้ามายังประเทศไทยกี่ครั้งและมีประเภทใดบ้าง ทางเจ้าหน้าที่จะได้ดำเนินการตรวจสอบไปยังทางกรมศุลกากรหรือกรมปศุสัตว์เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่ทางเจ้าของฟาร์ม กลับอ้างว่าได้เปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ ข้อมูลที่อยู่ในนั้นไม่ได้เก็บไว้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวทางเจ้าของฟาร์มค่อนข้างที่จะรู้ตัวและรู้ขั้นตอนกฎหมาย ทำให้ทางเจ้าหน้าที่ทำงานลำบาก.