หลายคนคงคุ้นชินภาพ “จ่าเฉย” ที่ยืนประจำการตามสี่แยกเพื่อคอยป้องปรามเหตุ-เตือนสติผู้ใช้รถใช้ถนน จวบจนวันนี้กินเวลา 17 ปี กลับมาครานี้ “จ่าเฉย” อัพสกิลใหม่พร้อมอวยยศเป็น สารวัตรเฉย พร้อมชื่อใหม่ “พ.ต.ต.เฉย ปัญญาประดิษฐ์” สังกัด บก.จร. และเริ่มออกปฏิบัติการครั้งแรก วันที่ 25 ธ.ค.ที่ผ่านมา ที่หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สร้างความตื่นเต้นให้กับประชาชนที่สัญจรไปมาที่ได้เห็นภาพลักษณ์ที่เปลี่ยนไปของสารวัตรเฉย

สำหรับที่มาของการปัดฝุ่นสารวัตรเฉย นั้น พ.ต.ท.ทศพร กลีบแก้ว รอง ผกก.2 บก.จร. หรือ “รองฟลุ๊ค” นายตำรวจ นรต.รุ่น 63 เล่าว่า พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผบ.ตร. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผบก.จร. พ.ต.อ.จตุพล เร่งถนอมทรัพย์ รอง ผบก.จร. พ.ต.อ.จามร ทองพรรณ รอง ผบก.จร. มีแนวคิดที่จะนำเทคโนโลยี และซอฟต์แวร์มาใช้ในด้านงานจราจร จึงได้คิดว่าจะทำอย่างไรให้เกิดความน่าสนใจ และสามารถใช้การได้จริง จึงเล็งเห็นว่าที่ผ่านมาเรามีจ่าเฉย ซึ่งในวันนี้เราได้พัฒนาและนำระบบเอไอ (AI) มาใช้ พร้อมกับเลื่อนขั้นยศใหม่ คือ “สารวัตรเฉย” หรือชื่อจริงคือ พ.ต.ต.เฉย ปัญญาประดิษฐ์

รองฟลุ๊ค เล่าอีกว่า โดยโมเดลสารวัตรเฉยมาจากตนเอง มีความสูงอยู่ที่ 180 เซนติเมตร ถ้ารวมฐานจความสูงจะอยู่ประมาณ 200 เซนติเมตร ซึ่งในตัวสารวัตรเฉยจะประกอบไปด้วยกล้องวงจรปิด แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ และตัวส่งสัญญาณมือถือทำหน้าที่ส่งข้อมูล ส่วนหลักการทำงานนั้น สารวัตรเฉยจะมีกล้องวงจรปิดทำหน้าที่การกระทำความผิดด้านการจราจร โดยเน้นความผิดหลัก อาทิ จอดในที่ห้ามจอด กีดขวางการจราจร ไม่สวมหมวกกันน็อก ขับรถย้อนศร ซึ่งทันทีที่พบความผิดกล้องจะบันทึกภาพและส่งข้อมูลป้ายทะเบียนรถ ยี่ห้อรถ ประเภทรถ และสีรถ ไปยังศูนย์ข้อมูลเทคโนโลยีด้านการจราจร ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจจะคอยเช็กความถูกต้องอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะออกใบสั่งอัตโนมัติส่งตรงไปยังบ้านของผู้ที่กระทำความผิดทันที

นอกจากนี้ระหว่างประจำการสามารถตรวจสอบอุบัติเหตุ หรืออาชญากรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามท้องถนนได้ อย่างไรก็ตาม ได้มีการทดลองนำร่องใช้งานในพื้นที่ราชประสงค์ และจะขับตระเวนเพื่อคอยตรวจจับผู้ที่กระทำความผิดตามท้องถนนในพื้นที่ที่มีปัญหาด้านการจราจร โดยหลังจากนี้ก็จะมีการทดลองใช้ไปในระยะหนึ่ง หากใช้งานได้ดีก็จะมีการขยายโมเดลสารวัตรเฉย ให้มีมากขึ้นและตรวจตราตามจุดต่างๆ มากยิ่งขึ้นต่อไป.