สัปดาห์หน้าก็เข้าปีใหม่2568 การเมืองเดือดพล่านด้วย เรื่อง การยุบพรรคก้าวไกล และการเปลี่ยนนายกรัฐมนตรีจาก”เสี่ยนิด” นายเศรษฐา ทวีสิน ถูกศาลรัฐธรรมนูญสอยด้วยข้อหาขาดจริยธรรมเพราะแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน ทนายที่เคยมีคดีความเป็น รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จนนำมาสู่การเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี เป็น “นายกฯอิ๊งค์” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร
วาระเดือดๆ ประจำปีมะโรงเรื่องแรกคือการยุบพรรคก้าวไกลในข้อหามีพฤติกรรมขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 49 เกี่ยวกับการปล่อยให้รณรงค์แก้ ป.อาญา ม.112 พรรคได้เตรียมทางหนีทีไล่ไว้ก่อนและย้ายมาอยู่พรรคถิ่นกาขาวชาวศิวิไลซ์ เปลี่ยนชื่อเป็นพรรคประชาชน ( ปชน.) ส่วนการแก้ ม.112 จะเป็นอย่างไรต่อก็ต้องรอดู
ซึ่งในปี 2568 ผลพวงจากเรื่องแก้ ม.112 ก็ยังติดตัวพรรคอยู่ เพราะ สส.ที่เข้าชื่อแก้ไข 44 คนถูกสอบเรื่องจริยธรรม ซึ่ง นายสาโรจน์ พึงรำพรรณ เลขาธิการ ป.ป.ช.แย้มว่า “ต้นปี อนุกรรมการสอบก็น่าจะสรุปสำนวนส่งเข้าที่ประชุม ป.ป.ช.ชุดใหญ่ได้” ถ้าผิด ก็ส่งศาลฎีกาตัดสิน โทษสูงสุดถึงขั้นเพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งตลอดชีวิต และเมื่อดูรายชื่อคนที่ถูกสอบ ก็มี “ตัวจี๊ด”หลายคน เช่น “อ.ไหม” น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร นายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ์ส.ส.ฉะเชิงเทรา นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ นายวาโย อัศวรุ่งเรือง นายรังสิมันต์ โรม รวมทั้ง “หัวหน้าเท้ง”ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ด้วย
ที่น่าสนใจคือ ในช่วงเปิดสมัยประชุม พรรคประชาชน (ปชน.) ตั้งใจจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีตาม มาตรา 151 ด้วย ก็ต้องรอดูว่า ป.ป.ช.หรือศาลฎีกามีคำสั่งอะไรให้พักการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ และไม่ทราบว่า ในพรรคเริ่มคุยกันถึงเรื่องการ “เตรียมแกนนำรุ่น 3” ไว้อย่างไร ถ้าเกิดคำตัดสินของศาลไม่เป็นคุณเหมือนกรณี “ช่อ”น.ส.พรรณิการ์ วานิช
สำหรับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ คาดว่า พรรค ปชน.จะยื่นญัตติได้ราวเดือน ก.พ. ซึ่งดูๆ แล้ว ไม่ทราบว่า “พรรคจะเล่นเรื่องคุณธรรมจริยธรรม” นอกเหนือจากเรื่องการทุจริตด้วยหรือไม่แต่เที่ยวนี้ เพราะ กุนซือพรรคบอกว่า “ถ้ายื่นแล้วต้องให้มั่นใจว่าเอาผิดได้” แบบฟันธงโชะตรงประเด็นไปเลย ว่ายื่นต่อองค์กรอิสระจัดการได้
ดูๆ แล้ว“ตำบลกระสุนตก” น่าจะอยู่ที่ “บิ๊กอ้วน”นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ซึ่งเชื่อได้ว่า คนจองกฐิน คือนายรังสิมันต์ โรม ที่มักจะพุ่งเป้าจัดการรัฐบาลในประเด็นความมั่นคง โจทย์ที่เริ่มแย้มออกมา คือ เรื่องปัญหาว้าแดงรุกที่ชายแดนไทย และเสียงวิจารณ์เรื่องการออกแอคชั่นล่าช้าเกี่ยวกับเรื่องเมียนมาจับแรงงานประมงไทย
คนต่อมา “เสี่ยหนู” นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย อาจมีเรื่องเป็นหางว่าว ตั้งแต่ข้อครหาว่า “ปล่อยให้มีการซื้อขายไฟฟ้าตรงตะเข็บชายแดน เพื่อนำไปผลิตยาเสพติด” ต่อมาก็เรื่องที่ดิน เขากระโดงที่ยังไม่จบเพราะตั้งคณะกรรมการกรมที่ดิน ต่อมา กรรมการฯ มีคำสั่งไม่ยึดที่คืน เนื่องจาก รฟท.ฟ้องด้วยแผนที่คนละฉบับกับที่ดิน
รัฐมนตรีอีกคนที่น่าสนใจคือ“เสี่ยธิ” นายอิทธิ ศิริลัทธยากร รมช.เกษตรและสหกรณ์ อาจโดนกรณีสั่งการสั่งการให้นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษา รมว.เกษตรและสหกรณ์ หยุดลงพื้นที่ตรวจสอบไร่ภูนับดาว สระบุรี ซึ่งอาจรุกที่ ส.ป.ก. ซึ่งว่ากันว่า เป็นดีลเพื่อให้พรรคพลังประชารัฐ ( พปชร.) ยอมขับกลุ่ม ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ออกไปอยู่กล้าธรรม หากอภิปรายเรื่องนี้ก็คงตีวัวกระทบคราด “บิ๊กป้อม”พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.ด้วย เพราะมีการเปิดประเด็น“หวานใจ”อาจจะมีเอี่ยวกับที่ดินนี้
นอกจากนี้ ประเด็นไหนที่ฟาดไปถึง “อดีตนายกฯแม้ว”นายทักษิณ ชินวัตรได้ ทางพรรค ปชน.คงเก็บหลักฐานกันถี่ๆ โดยเฉพาะคดีชั้น 14 ที่น่าจะอภิปราย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม
ส่วนของ “นายกฯอิ๊งค์” ทาง ปชน.บอกว่า ต้องเอาเรื่องที่เป็นความผิดโดยตรง ราวๆ ม.ค.นี้ เราคงเริ่มเห็นประเด็นร้อนๆกันแล้ว