เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ที่รัฐสภา นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงฉายาที่สื่อรัฐสภาตั้งให้กับสภาผู้แทนราษฎรว่า “เหลี่ยม(จน)ชิน” ว่าตรงกับที่ตนวิเคราะห์แล้วว่ารัฐบาลนี้ก็อยู่ด้วยการช่วงชิงกันมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว และเห็นคนที่ถูกตั้งก็ยอมรับกันหมด ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา คนเป็นนักการเมืองก็ต้องยอมรับว่าสื่อก็คือกระจกที่จะส่องตัวเราเอง ให้เรารู้ว่าคนอื่นเขามองเราอย่างไร
“ผมมักจะพูดให้คนรุ่นหลังๆ ในพรรคฟังอยู่เสมอ ว่าคนเป็นนักการเมืองนั้นความคิดเราสำคัญ แต่ความคิดที่สำคัญกว่าความคิดเราก็คือความคิดของชาวบ้านว่าเขามองเราอย่างไร” นายบัญญัติ กล่าว
ส่วนเหตุการณ์แห่งปี 2567 ซึ่งเป็นเหตุการณ์พรรคเพื่อไทยเทียบเชิญพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลนั้น นายบัญญัติ กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา พรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลใช่ว่าจะเห็นด้วยทั้งหมด แต่หลักของเราคือเมื่อเสียงข้างมากเขาคิดว่าจะไปร่วมรัฐบาล เพื่อที่จะสร้างผลงาน เพราะในช่วงหาเสียงเขาบอกว่าเจอปัญหาชาวบ้านเยอะ ถ้าถือว่าการตั้งพรรคการเมืองเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจรัฐ และได้ใช้อำนาจรัฐนั้นไปแก้ปัญหาประชาชน เขาก็อยากจะลองดูตรงนั้น ก็ว่ากันไป
เมื่อถามว่าเหตุการณ์แห่งปี ก็ไปพ้องกับฉายาของสื่อทำเนียบรัฐบาลที่ให้ว่า ”ประชาธิเป๋” นายบัญญัติ กล่าวว่า ไม่มีปัญหาอะไร เป็นการพูดเล่นกันไม่ใช่หรือ ว่าในยามที่สุขภาพยังไม่ดีก็เป๋กันอยู่บ้าง แต่สักพักก็คงแข็งแรงขึ้น ก็คงยืนตรงมากขึ้น
ต่อข้อถามว่า เป็นเพราะที่ผ่านมาภาพของพรรคประชาธิปัตย์ไม่ค่อยดีหรือไม่ นายบัญญัติ กล่าวว่า เรื่องนี้ก็เข้าใจ เพราะเราเป็นพรรคที่วิจารณ์กันเองเหมือนกัน ในช่วงที่มีการเลือกตั้งนายก อบจ.นครศรีธรรมราช ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ส่งผู้สมัครโดยตรง แต่เมื่อผู้สมัครที่คนของพรรคฯ สนับสนุนพ่ายแพ้ ก็มีการมาวิเคราะห์กันว่าเกิดขึ้นจากอะไร
“แม้ว่าเราจะไม่เป็นอย่างที่สังคมคิด แต่เราก็ต้องเข้าใจว่าสังคมเขามองมาแล้วเขามีสิทธิที่จะคิด จึงเป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องแก้ไข” นายบัญญัติ กล่าว