เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ภายหลังสื่อมวลชนประจำรัฐสภาตั้งฉายาให้  “เท้งเต้ง” ว่า ฉายาที่มอบให้หมายถึง 2 เรื่อง คือพรรคประชาชนโดดเดี่ยวในสภา อยากจะยืนยันอีกครั้งว่า พรรคประชาชนไม่เคยคิดว่าถูกให้โดดเดี่ยว เราพร้อมทำงานร่วมกับทุกพรรคในการเสนอกฎหมายที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน เราพร้อมที่จะสนับสนุน ขณะเดียวกัน ก็ไม่ทิ้งเรื่องการตรวจสอบ ซึ่งในต้นปี 2568 จะมีการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจตรวจสอบรัฐบาลอย่างเข้มข้นแน่นอน หากประชาชนมีข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับทุจริตคอร์รัปชั่น หรือเห็นว่ามีการทุจริตเชิงนโยบาย พรรคประชาชนพร้อมที่จะเป็นตัวกลาง เป็นปากเป็นเสียงให้กับพี่น้องประชาชน สามารถส่งข้อมูลมาได้

นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ยินดีรับฉายาไว้ตามข้อคิดเห็นที่ว่า ตนเองดูไม่มีทิศทาง แต่ยืนยันว่า ที่ผ่านมามีทิศทาง และมีผลงานที่ชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น เรื่องค่าไฟแพง ที่เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. ที่ผ่านมา คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) มีมติชะลอโครงการรับซื้อพลังงานไฟฟ้าหมุนเวียนไว้ก่อน เป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นว่า การทำงานของพรรคประชาชนที่ส่งเสียงออกมาดังๆ มีผลเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ ในช่วงต้นปี 2568 พรรคประชาชนมีทิศทางชัดเจน เราจะเสนอชุดกฎหมายเปลี่ยนประเทศมากกว่า 6 ชุด ทั้งการศึกษา สิ่งแวดล้อม ปลดล็อกที่ดิน การปฏิรูปกองทัพ คือจะทำอย่างไรให้เดือน เม.ย. ที่จะถึงนี้ ให้การบังคับเกณฑ์ทหารเป็นครั้งสุดท้าย หรือแม้แต่เรื่องเศรษฐกิจ และปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ของประเทศ

ผู้สื่อข่าวถามว่ามีความเป็นห่วงเรื่องกระแสนิยมที่มีการเปรียบเทียบนายณัฐพงษ์ กับนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลนั้น นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่มีความเป็นห่วงแต่อย่างใด กระแสความนิยมมีขึ้นมีลงเป็นธรรมดา ตนแจงในหลายเวทีแล้วว่าไม่อยากเปรียบเทียบกับอดีตแกนนำคนไหน เพราะเชื่อมั่นว่า สนามเลือกตั้งท้องถิ่นที่จะถึงในวันที่ 1 ก.พ. 2568 จะเป็นอีกหนึ่งสนามที่พรรคประชาชนได้พิสูจน์ให้เห็น และขอโอกาสพี่น้องกับประชาชนให้เราเข้าไปบริหารองค์การบริหารราชการส่วนจังหวัด (อบจ.) เพื่อแสดงผลงาน

เมื่อถามว่าไม่ได้รู้สึกน้อยใจใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ไม่รู้สึกน้อยใจ ได้จิตกำลังใจเต็มที่ ยกตัวอย่างฉายาที่ได้มา ก็กำลังใจดี พิสูจน์ให้เห็นผ่านการทำงานดีกว่า 

เมื่อถามถึงมองอย่างไรกับฉายาสภาเหลี่ยม (จน) ชิน การทำงานในปี 67 นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ฉายาสภาผู้แทนราษฎร “เหลี่ยม (จน) ชิน” ก็เป็นสิ่งที่สะท้อนบริบทสภาได้ดี สิ่งที่ประชาชนมักจะมองการเมืองไทยเป็นการเมืองสกปรก มีเล่ห์เหลี่ยมเยอะ แต่พรรคประชาชนตั้งแต่พรรคอนาคตใหม่ และพรรคก้าวไกล เราทำงานการเมืองอย่างตรงไปตรงมา อาสารับใช้พี่น้องประชาชน หลายครั้งมองว่าบริบทการตรวจสอบเราเบาลงหรือหรือไม่ ตนยืนยันอีกครั้ง ถ้ามีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เห็นแน่นอนว่าเราไม่เบาลง แต่สิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นในอดีต คือฝ่ายค้านทำงานสร้างสรรค์เชิงรุก พรรคประชาชนมีข้อเสนอกฎหมายมากที่สุดในรัฐสภา ส่วนร่างกฎหมายอื่นที่มีประโยชน์ต่อประชาชน เราก็พร้อมที่จะโหวตให้

เมื่อถามย้ำว่าชอบฉายาไหนมากที่สุด นายณัฐพงษ์ ยิ้มพร้อมกล่าวว่า “ชอบทุกฉายา แต่ชอบฉายาตนเองมากที่สุด เพราะสะท้อนการทำงานของตนเอง”.