เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยกรณีที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก นัดตัดสินพิพากษายกฟ้อง คดีหมายเลขดำที่ อ 989/2566 นายพัฒนพล กุญชร หรืออดีตดีเจแมน, น.ส.สุธีวัน กุญชร หรือทวีสิน หรือใบเตย นักร้องชื่อดัง และพวก ร่วมกันฉ้อโกงแชร์ Forex-3D ว่า ภายหลังศาลชั้นต้นมีคำส่งยกฟ้อง การอุทธรณ์จะเป็นอำนาจหน้าที่ของอัยการที่จะยื่น แต่ก็ต้องพิจารณาประกอบกับคำพิพากษาของศาล อย่างไรก็ตาม ในส่วนของคำพิพากษาของกลุ่มดีเจแมน และใบเตยในวันนี้จะส่งผลต่อกลุ่มของนักแสดงสาว “พิ้งกี้-สาวิกา ไชยเดช” และกลุ่มของนายอภิรักษ์ โกฎธิ หรือไม่นั้น คาดว่าศาลต้องมีการพิจารณาเป็นรายบุคคล ซึ่งแต่ละรายอาจจะมีความผิดและพยานหลักฐานแตกต่างกันไป เพราะแต่ละคดีไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ ถ้ามีเหตุสงสัย ศาลก็จะยกประโยชน์แห่งความสงสัยให้แก่จำเลย ซึ่งเป็นหลักการปกติ
เปิดเหตุผลศาลอ่านคำพิพากษายกฟ้อง ‘ใบเตย-ดีเจแมน’ คดี Forex-3D
เมื่อถามถึงกรณีของคดี บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด หรือคดีพิเศษที่ 119/2567 ที่ปัจจุบันผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย อยู่ระหว่างการฝากขังที่เรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และทัณฑสถานหญิงกลาง แต่หากในอนาคตศาลชั้นต้นมีการยกฟ้องเช่นกัน จะเกิดความเสียหายอย่างไรหรือไม่นั้น พ.ต.ต.ยุทธนา แจงว่า คงไม่ เพราะมันเป็นหลักทั่วไปตามขั้นตอนของกฎหมาย แม้หากศาลมีการพิพากษาจำคุกแล้ว ก็ต้องเอาวันที่ถูกคุมขังมาหักออก ซึ่งเป็นไปตามหลักกฎหมาย พร้อมย้ำว่า ส่วนเรื่องการอุทธรณ์คำพิพากษาของศาล เป็นหน้าที่ของอัยการ
พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ กล่าวว่า กระบวนการเมื่อศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง อัยการในฐานะโจทก์ จะเป็นผู้พิจารณาการยื่นอุทธรณ์ ซึ่งถ้าหากไม่อุทธรณ์ อัยการจะมีหนังสือสอบถามมายังดีเอสไอว่าเห็นด้วยกับการที่อัยการไม่อุทธรณ์หรือไม่ ย้ำว่าอำนาจเด็ดขาดเป็นของอัยการ เพราะในชั้นศาล อัยการ คือ โจทก์ ส่วนดีเอสไอจะเห็นด้วยหรือแย้งกับการที่อัยการไม่อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลหรือไม่นั้น ดีเอสไอต้องดูเหตุผลคำพิพากษาของศาลประกอบว่าเห็นควรแย้งหรือไม่ ซึ่งเป็นอำนาจของอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่จะต้องพิจารณาความเห็นของอัยการที่จะไม่อุทธรณ์ เห็นด้วยกับอัยการหรือไม่ โดยรวม คือ หากอัยการยืนยันไม่อุทธรณ์คำพิพากษาของศาล อธิบดีดีเอสไอก็จะต้องดูทั้งความเห็นของอัยการที่ไม่อุทธรณ์และดูคำพิพากษายกฟ้องของศาลในคดีดังกล่าว และหากดีเอสไอไม่เห็นด้วยกับความเห็นของอัยการที่ไม่อุทธรณ์ ดีเอสไอก็จะต้องทำหนังสือไปยังสำนักงานอัยการสูงสุดเพื่อชี้ขาด ส่วนกรณีหากอัยการจะอุทธรณ์คำพิพากษาของศาล ทางอัยการจะไม่มีความจำเป็นต้องส่งหนังสือสอบถามการอุทธรณ์มายังดีเอสไอแต่อย่างใด
ส่วนคำพิพากษาศาลอาญาที่ได้ยกฟ้องกลุ่มดีเจแมน ใบเตย จากคดีแชร์ Forex-3D จะส่งผลกระทบต่อสำนวนคดีดิไอคอนฯ หรือไม่ เนื่องจากทนายความของผู้ต้องหาได้มีการอธิบายถึงกระบวนการยุติธรรมที่มีการต่อสู้ถึง 3 ศาล และถ้าหากศาลชั้นต้นมีการพิพากษายกฟ้องเท่ากับว่าจะเป็นเหมือนการนำผู้ต้องหาไปคุมขังไว้ภายในเรือนจำ โดยที่ผู้ต้องหาไม่ได้สิทธิประกันตัวชั่วคราวหรือไม่ พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า กระบวนการยุติธรรมกำหนดเงื่อนไขเป็นแบบนั้น พนักงานสอบสวนไม่ได้ทำอะไรเกินกฎหมาย เพราะดีเอสไอมีหน้าที่สืบสวนสอบสวนและทำสำนวนสรุปส่งพนักงานอัยการ ส่วนเมื่ออัยการยื่นฟ้องต่อศาล ก็จะเป็นกระบวนการภายในชั้นศาล ดังนั้น การฝากขังผู้ต้องหาระหว่างพิจารณาคดีก็เป็นไปตามขั้นตอน ตั้งแต่ชั้นพนักงานสอบสวนดีเอสไอ ไปจนถึงชั้นพนักงานอัยการ และไปจนถึงชั้นศาล ทุกอย่างเป็นไปตามช่วงการดำเนินงานและดุลพินิจของหน่วยงาน ส่วนในกรณีการค้านปล่อยตัวชั่วคราวในชั้นสอบสวน ไม่ได้มีเพียงเจ้าหน้าที่เท่านั้นที่ค้าน แต่ยังมีในส่วนของผู้เสียหายที่ร่วมคัดค้านการปล่อยตัวชั่วคราวด้วย
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวอีกว่า กรณีว่าจะมีการนำคำพิพากษาศาลที่ยกฟ้องไปเทียบเคียงกับกลุ่มผู้ต้องหารายอื่นที่อยู่ในสำนวนคดีแชร์ Forex-3D ด้วยหรือไม่นั้น ตนต้องขอเรียนว่าพฤติการณ์ทางคดีและพยานหลักฐานการกระทำความผิดของแต่ละรายแตกต่างกันออกไป เพราะในชั้นศาลจะมีการเบิกความพยาน พยานเอกสาร การสืบประกอบพยานฝ่ายโจทก์และจำเลย จึงอาจมีข้อเท็จจริงที่แตกต่างกัน เพราะการกระทำของแต่ละคนต่างกัน ศาลจึงต้องไต่สวนและชั่งน้ำหนักจากพยานหลักฐานทั้งหมด ทั้งนี้ สำหรับภาพรวมของคดีแชร์ลูกโซ่ที่ดีเอสไอดำเนินการ และสรุปสำนวนไปก่อนหน้านี้นั้น มีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ที่ศาลมีคำพิพากษาลงโทษ
พ.ต.ต.วรณัน กล่าวว่า ดีเอสไอคือพนักงานสอบสวนชั้นต้น และเมื่อสรุปสำนวนส่งพนักงานอัยการ พนักงานอัยการก็จะมีการกรองอีกชั้น และเมื่ออัยการเห็นด้วยจึงมีความเห็นสั่งฟ้อง ดังนั้น การที่พนักงานอัยการมีความเห็นสั่งฟ้อง แสดงว่ามีพยานหลักฐานน้ำหนักพอสมควรแล้ว แต่เมื่อไปสู่ชั้นศาลมันก็ต้องมีการสู้คดี มีการรวบรวมพยานหลักฐานของทั้งโจทก์และจำเลย
เมื่อถามว่าในกลุ่มผู้ต้องหาคดีแชร์ลูกโซ่ Forex-3D ลอตแรก คือ กลุ่มของนายอภิรักษ์ โกฎธิ CEO Forex-3D พี่ชายนักเเสดงสาวพิ้งกี้ รวมถึงมารดาพิ้งกี้ และพิ้งกี้ นั้น ดีเอสไอมีการส่งสำนวนไปก่อนแล้ว แต่ต่อมาพนักงานอัยการได้มีหนังสือคำแนะนำให้ดีเอสไอตรวจสอบไปยังบุคคลอีก 16 ราย ซึ่งก็คือกลุ่มดีเจแมนและใบเตย กระบวนการตอนนั้นเป็นอย่างไร พ.ต.ต.วรณัน แจงว่า เนื่องด้วยพนักงานอัยการได้มีการตรวจสอบในสำนวนคดีเดิม (ลอตนายอภิรักษ์ โกฎธิ) และเห็นควรว่าควรดำเนินคดีกับบุคคลทั้ง 16 ราย (กลุ่มดีเจแมนและใบเตย) เพราะพยานหลักฐานมันมีอยู่ จึงมีการสอบสวนเพิ่มเติม แต่พอมีการพิจารณาในชั้นศาล ก็เป็นเรื่องของโจทก์และจำเลย ซึ่งดีเอสไอมิอาจไปก้าวล่วงคำพิพากษาของศาลได้
“ย้ำว่าข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานในคดีระหว่างคดีแชร์ Forex-3D และคดีแชร์ดิไอคอนฯ มีความแตกต่างกัน และดีเอสไอคือกระบวนการยุติธรรมชั้นต้นในการรวบรวมหลักฐาน ดังนั้น เมื่อหลักฐานเพียงพอในการสั่งฟ้อง ดีเอสไอก็มีความเห็นสั่งฟ้องส่งต่อให้พนักงานอัยการ จึงเป็นเรื่องกระบวนการทำงาน ดีเอสไอทำหน้าที่ตามกระบวนการ ไม่ได้หวั่นไหวใดๆ“ พ.ต.ต.วรณัน ระบุปิดท้าย.