หลังจากการที่ สมาคมกีฬาตะกร้อแห่งประเทศไทย ได้ประกาศรายชื่อนักตะกร้อทีมชาติไทย ชุดเตรียมเข้าร่วมแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 9-20 ธ.ค. 2568 จำนวน 48 คน โดยเป็นนักกีฬาตะกร้อชาย 24 คน และนักกีฬาตะกร้อหญิง 24 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักกีฬามากด้วยประสบการณ์ และความสามารถเนื่องจากเคยผ่าน เอเชียนเกมส์, ซีเกมส์, เวิลด์คัพ มาแล้วทั้งนั้น ผสมผสานกับดาวรุ่งอีกจำนวนหนึ่ง กำหนดเข้าทำการเก็บตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 ม.ค. 2568 ที่ มูลนิธิตะกร้อแห่งประเทศไทย จ.ปทุมธานี นั้น

ล่าสุด พ.ต.ท.สืบศักดิ์ ผันสืบ อดีตนักกีฬาตะกร้อทีมชาติไทย ปัจจุบันเป็นกรรมการบริหารสมาคมกีฬาตะกร้อฯ รับผิดชอบในด้านคัดเลือกและภาพรวมการเตรียมความพร้อมของนักกีฬาตะกร้อทีมชาติไทย ทั้งชายและหญิง เปิดเผยว่า ในการคัดเลือกนักตะกร้อชายจากจำนวน 60 คน เหลือ 24 คน ส่วนนักตะกร้อหญิงเข้ามาร่วมคัดเลือกจำนวน 105 คน ให้เหลือ 24 คนเท่ากัน สตาฟฟ์โค้ชทุกคนทำงานกันหนักมาก กว่าจะได้ 48 คน ทุกคนที่ผ่านการคัดเลือกไม่มีการใช้เส้นสาย ได้โดยความสามารถล้วน ๆ ขณะที่ บรรดาดาวรุ่งที่ติดทีมชาติครั้งแรก ชุดนี้คือสายเลือดใหม่ที่มีคุณภาพ โดยเฉพาะการแข่งขันซีเกมส์ครั้งที่ 34 ปี 2570 ที่มาเลเซีย

เมื่อถามถึงเรื่องการเก็บตัว และเงินรางวัลนักกีฬาจะมีปัญหาเหมือนเมื่อในอดีตอีกหรือไม่ “โจ้” พ.ต.ท.สืบศักดิ์ เผยว่า ที่ผ่านมาเป็นบทเรียนที่ดี สามารถสะสางปัญหาให้น้อง ๆ ได้เป็นที่น่าพอใจ ในยุคก่อนหน้านี้ ผมไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารงานสมาคมฯ แต่ในยุคนี้ได้กำชับเรื่องความถูกต้อง ไม่ใช่การถูกใจ

“ส่วนตัวในฐานะเป็นผู้ที่ต่อสู้เรื่องความไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะนักกีฬาที่ถูกเอารัดเอาเปรียบมาโดยตลอด ครั้งนี้ลงมาดูแลด้วยตนเอง ขอยืนยันว่าทั้งตัวเองและทีมผู้ฝึกสอน ทำงานด้วยความสุจริตใจ จะไม่แตะต้องเรื่องเงินทองของนักกีฬา และผู้ฝึกสอนแม้แต่บาทเดียว เมื่อทุกคนเหนื่อยก็สมควรได้รับเงินเบี้ยเลี้ยงเต็มที่ตามสิทธิอย่างเต็มที่ เช่นเดียวกับเรื่องเงินรางวัล และเงินอัดฉีด สมาคมฯ จะเป็นผู้ตกลงกับนักกีฬาและผู้ฝึกสอน ให้เข้าใจที่ตรงกัน เกิดความพึงพอใจของทั้ง 2 ฝ่าย โดยผู้ฝึกสอนได้รับส่วนแบ่งจากรัฐบาล 20%, สมาคมฯ ได้รับ 30% นักกีฬาได้รับ 100% ทุกคนมีเงินรางวัลตอบแทนอย่างชัดเจน ดังนั้นผู้ฝึกสอน หรือ ใครก็ตาม ไม่ควรไปยุ่งเรื่องเงินของนักกีฬา ควรให้นักกีฬาได้รับอย่างเต็มเม็ด เต็มหน่วย อยากบอกว่าที่ผ่านมาเป็นอย่างไรมันจบไปแล้ว แต่ชุดนี้ ยุคนี้ นักกีฬาต้องเก็บตัวฝึกซ้อมหนักและเหนื่อยแน่ แต่สบายใจ ค่าเบี้ยเลี้ยงและเงินรางวัลค่าตอบแทนได้รับเต็มที่ ไม่มีการถูกหักหัวคิวอย่างแน่นอน”

สำหรับนักกีฬาตะกร้อทีมชาติไทย ชุดซีเกมส์ 2025 มีโปรแกรมเข้าร่วมแข่งขัน เวิลด์คัพ 2 รายการ ในเดือน มี.ค. 2568 ที่อินเดีย และในเดือน ก.ค. 2568 แข่งขันรายการเวิลด์คัพ ที่มาเลเซีย ก่อนจะถึงทัวร์นาเมนต์แห่งศักดิ์ศรี ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 9-20 ธ.ค. 2568 ที่ประเทศไทย ต่อไป.