เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 25 ธ.ค. 67 บริเวณริมฟุตปาธหน้าแดนเนรมิต นายธมนันท์ แตงทิม หรือจ่าคิงส์ สะพานใหม่ พา น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 33 ปี ลูกจ้างร้านไอศกรีม เข้าพบพนักงานสอบสวน บช.ก. หลังถูกสามีนอกใจทำร้ายร่างกายและนำลูกไปเลี้ยง
น.ส.เอ เปิดเผยว่า ตนคบหากับสามีมานาน 6–7 ปี และได้จดทะเบียนสมรสกันถูกต้องตามกฎหมาย และมีลูกด้วยกัน 3 คน กระทั่งช่วงต้นปี 67 ที่ผ่านมา สามีตนได้ไปทำงานที่ต่างจังหวัด ตนเริ่มรู้สึกระแคะระคายว่า สามีจะนอกใจ เนื่องจากมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป จึงได้สอบถามกับเพื่อนร่วมงานของสามีจนทราบว่า มีผู้หญิงอีกคน ซึ่งก็เคยสอบถามกับสามีมาตลอด แต่ก็ปฏิเสธทุกครั้ง กระทั่งวันที่ 14 เม.ย. ตนได้มีการพูดคุยเจรจากับสามีเพื่อที่จะตกลงกัน แต่ทางสามีกลับทำร้ายร่างกายตน ทั้งบีบคอ ต่อยหน้า และนำอาวุธมีดจี้คอต่อหน้าลูกทั้ง 3 คนของตน ซึ่งที่ผ่านมา สามีไม่เคยมีพฤติกรรมทำร้ายร่างกาย และไม่เคยมีอารมณ์รุนแรง กระทั่งมีผู้หญิงคนอื่น สามีก็เปลี่ยนไป ซึ่งตนก็มีโอกาสได้พูดคุยกับผู้หญิงคนดังกล่าว ซึ่งอีกฝ่ายก็ทราบว่า สามีของตนมีลูกมีเมียอยู่แล้วแต่ไม่สนใจ
น.ส.เอ กล่าวต่อไปว่า หลังจากถูกทำร้ายร่างกาย ตนก็ได้เดินทางไปแจ้งความที่พื้นที่ สภ.มาบตาพุด แต่คดีไม่คืบหน้า ตนได้โทรฯ ไปสอบถามตำรวจก็แจ้งว่ามีการออกหมายเรียกแล้ว ตนขอให้ตำรวจช่วย แต่ทางตำรวจก็บอกว่า ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร จึงตัดสินใจมาร้องขอความช่วยเหลือกับจ่าคิงส์ อีกทั้งทางด้านสามียังมีการตกลงว่าจะนำลูกไปเลี้ยงเองทั้งหมด แต่ตกลงกันว่าจะไม่กีดกันให้ตนได้พบลูก จึงตัดสินใจให้ลูกไปเนื่องจากตนไม่มีเงินเลี้ยงลูก ถึงขนาดต้องให้ลูกคนเล็กกินน้ำประปาแทนนมถึง 1 สัปดาห์ โดยในวันที่สามีมานำลูกไปก็ได้พาผู้หญิงคนดังกล่าวมาด้วย และขอไม่พบกับตน
น.ส.เอ กล่าวอีกว่า หลังจากที่สามีนำลูกไปเลี้ยงที่ จ.กำแพงเพชร แล้ว ตนไม่สามารถติดต่อกับลูกได้เลย ซ้ำยังถูกกีดกันไม่ให้พูดคุยกับลูก จึงทำให้เป็นห่วงความเป็นอยู่ของลูก เพราะทางฝ่ายผู้หญิงเคยอ้างว่าเป็นลูกหลานกำนันคนใหญ่คนโต กฎหมายก็ไม่กลัว ในวันนี้จึงมาร้องขอให้ทางจ่าคิงส์ ช่วยพาไปพบพนักงานสอบสวน บช.ก. เพื่อให้ทาง บช.ก. ประสานไปยัง สภ.มาบตาพุด ให้ติดตามคดีทำร้ายร่างกายให้ตน อีกทั้งจะมีการปรึกษากับทางญาติว่าจะดำเนินการฟ้องหย่าและฟ้องชู้ เพื่อเรียกร้องสิทธิในการเลี้ยงดูบุตรทั้ง 3 คนต่อไป.