ทุกวันที่ 26 ธ.ค. ของทุกปี ถือเป็นวันคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ ปีนี้ “กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช” จัดงานวันคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติภายใต้แนวคิด “World-Wild-Life Balance : ระบบนิเวศสมดุล คน สัตว์ ป่า ยั่งยืน” พร้อมเปิดการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติ ประจำปี 2568

สำหรับแนวคิด “World-Wild-Life Balance” หรือ “ระบบนิเวศสมดุลคน สัตว์ ป่า ยั่งยืน” เป็นแนวคิดที่เน้นสร้างความสมดุลระหว่างมนุษย์ สัตว์ป่า และสิ่งแวดล้อม โดยตระหนักถึงความเชื่อมโยงที่ซับซ้อนและเป็นปฏิสัมพันธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตทุกชนิดบนโลก การดำรงอยู่ของมนุษย์นั้นพึ่งพาอาศัยระบบนิเวศที่สมบูรณ์ ซึ่งประกอบด้วยความหลากหลายทางชีวภาพทั้งพืชและสัตว์ การทำลายป่า การล่าสัตว์ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ล้วนส่งผลกระทบต่อสมดุลของระบบนิเวศ และก่อให้เกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น การสูญพันธุ์ของสัตว์ป่าการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ และภัยพิบัติทางธรรมชาติ

“เฉลิมชัย ศรีอ่อน” รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า ความหลากหลายของทรัพยากรป่าไม้สัตว์ป่า และพันธุ์พืชในประเทศไทยในปัจจุบัน เป็นผลมาจากความพยายามอย่างต่อเนื่องในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเกิดจากการดำเนินนโยบายที่มุ่งเน้นการอนุรักษ์อย่างเข้มข้น การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และที่สำคัญที่สุดคือการบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และประชาชนทั่วไป รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงมุ่งมั่นที่จะบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดความยั่งยืน ควบคู่ไปกับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม

ทั้งนี้ได้มอบหมายให้กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีหน้าที่รับผิดชอบในการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และดูแลรักษาทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า ซึ่งเป็นทรัพยากรที่สำคัญในการสร้างเศรษฐกิจจากระบบนิเวศ นอกจากนี้ ยังมีการดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากความขัดแย้งระหว่างคนกับสัตว์ป่า และปัญหาที่ดินทำกินของราษฎรรอบพื้นที่อนุรักษ์ เพื่อสร้างความสมดุลระหว่างการอนุรักษ์และการพัฒนา

“อรรถพล เจริญชันษา” อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า สัตว์ป่าและมนุษย์ต่างเป็นส่วนประกอบสำคัญของระบบนิเวศที่สืบทอดกันมายาวนานตั้งแต่ยุคเริ่มแรกของโลก ทั้งสองเผ่าพันธุ์ได้ดำรงชีวิตเคียงข้างกันมาโดยตลอด โดยที่มนุษย์ได้นำสัตว์ป่าบางชนิดมาเลี้ยงเพื่อเป็นสัตว์เลี้ยงประจำวัน ขณะที่สัตว์ป่าส่วนใหญ่ยังคงอาศัยอยู่ในป่าซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ การดำรงอยู่ของสิ่งมีชีวิตทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นจุลินทรีย์ พืช หรือสัตว์ขนาดใหญ่ ล้วนมีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดผ่านห่วงโซ่อาหารที่ซับซ้อน ซึ่งเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้เกิดความสมดุลในระบบนิเวศ สัตว์เล็กกินพืชเป็นอาหาร สัตว์ใหญ่กินสัตว์เล็ก และสัตว์ผู้ล่าก็มีบทบาทสำคัญในการควบคุมประชากรของสัตว์อื่น ๆ ทำให้เกิดความสมดุลที่เอื้อต่อการดำรงชีวิตของทุกสายพันธุ์
มนุษย์และสัตว์ป่าเองก็มีความเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้งในระบบนิเวศโลก การวิวัฒนาการของมนุษย์นั้นดำเนินควบคู่ไปกับสัตว์ป่า แต่ความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยีและสังคม ทำให้มนุษย์สามารถปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมและมีบทบาทในการควบคุมธรรมชาติได้มากขึ้น แม้ว่าปัจจุบันมนุษย์ส่วนใหญ่จะอาศัยอยู่ในเมือง แต่สัตว์ป่ายังคงมีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลของระบบนิเวศโดยเฉพาะในป่า ซึ่งเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยและแหล่งอาหารของสัตว์ป่าหลากหลายชนิด แต่ละชนิดล้วนมีบทบาทเฉพาะในการรักษาความอุดมสมบูรณ์ของป่า เช่น การช่วยกระจายพันธุ์พืช การควบคุมประชากรแมลงศัตรูพืช เป็นต้น การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพของสัตว์ป่าจึงส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศโดยรวมและส่งผลกระทบต่อมนุษย์ในระยะยาว ดังนั้นการอนุรักษ์สัตว์ป่าจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อรักษาความสมดุลของธรรมชาติและความยั่งยืนของระบบนิเวศโลก
“อรรถพล” ยังกล่าวถึงความสำคัญของป่าไม้และระบบนิเวศต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ เพิ่มเติมอีกว่า ประเทศไทยมีพื้นที่ป่าไม้ครอบคลุมประมาณ 31% ของพื้นที่ทั้งประเทศ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการรักษาระบบนิเวศและสนับสนุนการดำรงชีวิตของมนุษย์อย่างมาก เนื่องจากป่าทำหน้าที่ดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 28 ล้านตันต่อปี และปล่อยออกซิเจนสู่ชั้นบรรยากาศประมาณ 22 ล้านตันต่อปี อีกทั้งยังเป็นแหล่งต้นนํ้าลำธารที่สำคัญ ซึ่งเป็นแหล่งนํ้าอุปโภคบริโภคของประชาชนกว่า 70% ของประเทศ ซึ่งทั้งหมดนี้ชี้ให้เห็นว่าทั้งป่าไม้ สัตว์ป่า และมนุษย์ ก็ล้วนแล้วแต่มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด.