เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุม ครม. รับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอการมีหนังสือตอบรับคำเชิญเข้าเป็นประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS 4 (BRICS Partner Country) ของประเทศไทย ตามมติของที่ประชุมผู้นำ BRICS ครั้งที่ 16 (The 16th BRICS Summit) เมื่อวันที่ 23 ต.ค. 2567 ที่เมืองคาซาน ประเทศรัสเซีย เพื่อกระทรวงการต่างประเทศจะได้แจ้งฝ่ายรัสเซียต่อไป (ภายในปี 2567 ก่อนที่รัสเซียจะสิ้นสุดวาระการดำรงตำแหน่งผู้นำฯ) สำหรับประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS เป็นกลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็ว ประกอบด้วย บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และแอฟริกาใต้ และประเทศใหม่อีก 5 ประเทศ ได้แก่ อียิปต์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เอธิโอเปีย ซาอุดีอาระเบีย อิหร่าน ซึ่งที่ผ่านมา มีประเทศที่เสนอเข้าเป็นสมาชิกเพิ่มเติมอีก 3 ประเทศ คือ ไทย แอลจีเรีย และประเทศโบลิเวีย

นายจิรายุ กล่าวอีกว่า กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า การเข้าเป็นประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS จะเป็นประโยชน์ต่อฝ่ายไทย อาทิ การส่งเสริมการเข้าเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบและการมีปฏิสัมพันธ์ของไทยกับกลุ่ม BRICS โดยเฉพาะอย่างยิ่งด้านการค้า การลงทุน การเงิน ความมั่นคงด้านอาหาร และความมั่นคงด้านพลังงาน รวมทั้งเพิ่มบทบาทของไทยในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศและความเข้มแข็งของระบบพหุภาคี และเมื่อไทยเข้าเป็นประเทศหุ้นส่วนของกลุ่ม BRICS แล้ว จะต้องดำเนินการ อาทิ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทย จะต้องเตรียมความพร้อมในการมีส่วนร่วมของกลุ่ม BRICS ที่ไทยจะได้รับเชิญ และส่งผู้แทนระดับรัฐมนตรีเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐมนตรี รายสาขาที่ได้รับเชิญในแต่ละปี รวมทั้งพิจารณาตั้งงบประมาณในการเข้าร่วมประชุมที่เกี่ยวข้องต่อไป ไทยอาจพิจารณาให้การสนับสนุนต่อเอกสารผลลัพธ์การประชุมผู้นำและการประชุมผู้นำ และการประชุม รมต.ต่างประเทศของกลุ่ม BRICS ได้