เรียกได้ว่าเป็นกระแสที่กลายเป็นไวรัลอย่างมากอยู่ในขณะนี้ หลังเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 67 มีผู้ใช้เพจเฟซบุ๊ก “ทำไมถึงเจ๊ง” ได้ออกมาย้อนเคสเด็กมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่ตั้งกระทู้ขอทำงานทำ โดยอ้างว่าไม่มีพ่อแม่ และต้องเลี้ยงน้องอีก 1 ชีวิต จนกระทั่งเพจดังช่วยเหลือให้เขียนเรียงความแลกเงิน สุดท้ายเรื่องนี้กลับพลิกผัน เพราะแท้จริงแล้วเด็กคนนั้นไม่มีอยู่จริง แต่กลับเป็นครูที่นำเค้าโครงของเด็กในห้องเรียนมาเป็นต้นฉบับนั่นเอง
โดย เพจทำไมถึงเจ๊ง ระบุข้อความว่า “เรื่องมีอยู่ว่ามีเด็ก ม.2 คนหนึ่ง โพสต์กระทู้ในพันทิปของานทำหลังเลิกเรียน โดยเธอมีภาระเป็นน้องอีกคนหนึ่งและพ่อแม่ไม่อยู่แล้ว อ่านเจอและเห็นใจเลยพยายามติดต่อสอบถามไป ซึ่งคนที่ตอบเป็นครูประจำชั้น และได้อธิบายว่า พ่อกับแม่ไม่อยู่แล้ว ตอนนี้เธออยู่ในการดูแลของครู ช่วยให้ที่พักอาศัย ของที่โรงเรียนตั้งกระทู้ขอความช่วยเหลือ เมื่อได้ติดต่อสอบถามคุณครูเล่าเรื่องราวให้ฟัง”

“ทางแอดจึงตัดสินใจ นำไปโพสต์ในเพจเจ้าหญิงน้อยแห่งอันดามัน และจึงเริ่มมีการคุยกับลูกเพจที่อยากสนับสนุน
ซึ่งแน่นอนว่า การช่วยเหลือไม่ควรเป็นเงินบริจาค และในการช่วยเหลือเราจะไม่รีบ ถ้าไม่ใช่เคสเร่งด่วนจึงค่อยๆ ให้น้องเขาเขียนเรียงความวันละหน้าและจ่ายเงิน เหมือนเราซื้อคอนเทนต์”
“ตรงนี้แอดอธิบายว่า ทำด้านต่อต้านฉ้อโกง และต่อต้านการระดมทุน โดยไม่มีที่มาที่ไปมาตลอด ดังนั้น การช่วยเหลือไม่ควรจะเป็นการโพสต์ระดมรับบริจาค จึงใช้แนวคิด หนึ่งเรียงความ ให้เงินค่าเรียนความ 600-900 บาท โดยเงินเป็นเงินส่วนตัวของแอดมิน และลูกเพจที่ระดมโอนมา ซึ่งตรงนี้การเบิกจ่ายจะจ่ายทุกบทความเรียงความ ไม่ว่าจะเขียนสั้นหรือยาวก็ตาม โดยแนวคิดได้ถูก เสนอแนะเพิ่มเติมจากลูกเพจ จนค่อนข้างไม่มีรอยรั่ว”
“จากนั้นทางเพจก็โพสต์เรียงความ ลงในเพจซึ่งมีผู้อ่านจำนวนมาก ซึ่งชื่นชมเด็ก ม.2 ที่พยายามหาเงินเลี้ยงตัวเอง ซึ่งแทนที่จะไปทำงานล้างจาน ขอเพียงอยู่บ้านดูแลน้องและเขียนเรียงความก่อนนอน ก็ได้ค่าเรียงความตอนละ 600-900 บาท ยิ่งเขียนมากยิ่งได้เงินมาก ซึ่งตรงนี้ส่วนหนึ่งแอดอธิบายว่า เป็นกระบวนการและขั้นตอน เพื่อป้องกันโดนมิจฉาชีพหลอกซ้ำ โดยก่อนจะเริ่มโครงการมีการตรวจสอบกับคุณครูเรียบร้อยแล้ว”
นอกจากนี้ “เหตุการณ์ผ่านไปหลังจากลงไปได้หลายตอน มีคนติดตามรอฟังความคืบหน้า อยากรู้ชีวิตน้องดีขึ้นบ้างหรือยัง และเริ่มมีเพจต่างๆ ให้การสนับสนุน เช่นวาดภาพประกอบให้ รวมไปถึงมีคนรับปากว่า จะเตรียมคุยกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือในระยะยาว ซึ่งนี่คือจุดประสงค์หลักที่เริ่มตรงนี้ แต่สุดท้ายแล้วเรื่องราวทั้งหมด กลายเป็นเรื่องโกหก”
จนกระทั่ง “หลังจากอาจารย์ที่โทรฯ มาคอยบอกเล่า วันหนึ่งตัดสินใจสารภาพว่าเป็นการกุเรื่องขึ้นทั้งหมด โดยเด็กทั้งสองคนไม่มีตัวตนอยู่จริง แต่เอาเค้าโครงของเด็กในห้องเรียนของอาจารย์ท่านนี้มาเป็นต้นฉบับ ซึ่งคนที่อยู่เบื้องหลังทุกอย่างก็คือ “อาจารย์ท่านนั้น” โดยในการสารภาพครั้งนี้ อาจารย์สารภาพว่า “เห็นเคสบริจาคเงินช่วยเหลือ ได้เป็นแสนเป็นล้าน จึงอยากได้เงินสักก้อนเพื่อปลดหนี้และเปลี่ยนชีวิตตัวเอง” แต่ที่คาดไม่ถึงก็คือ แทนที่จะมีเพจช่วยระดมทุน แต่กลับให้การช่วยเหลือโดยให้ตั้งตัวได้ด้วยตนเอง”
อีกทั้ง “ครูโทรฯ มาสารภาพทั้งน้ำตาว่า ยิ่งทำยิ่งเสียใจและรู้สึกถึงมิตรไมตรีน้ำใจของทุกคนที่ช่วยเหลือ แต่มันไม่ใช่เรื่องจริง เธอจึงตัดสินใจบอกความจริง ซึ่งผลที่ตามมา ส่งผลให้แอด เศร้าไปหลายวัน เพราะเสียใจและเสียความรู้สึกอย่างมาก ซึ่งตอนนั้นก็มีเงินรวมที่บริจาคกันมาอยู่หลักหมื่น ต้องคอยชี้แจงทุกอย่าง เพราะเป็นคนชี้นำ ต้องเป็นผู้รับผิดชอบด้วย ซึ่งเคสนี้ก็ผ่านไปหลายปีแล้ว เงินที่มีอยู่ในกองกลางมีการประกาศตกลงกันว่า จะบริจาคต่อให้มูลนิธิที่ถูกต้อง ส่วนอาจารย์คนดังกล่าวได้ทำเรื่องขอย้าย และเงียบหายไปเรียบร้อยครับ ซึ่งงานนี้แอดทั้งเสียใจเสียความรู้สึก และหยุดกิจกรรมการกุศลไป 2 ปี”
อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ต่างมีชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก โดยชาวเน็ตส่วนใหญ่ต่างบอกว่า “อยู่ในเหตุการณ์ค่ะ เซ็งมากจริงๆ, ขอบคุณที่แชร์เรื่องราวไว้เป็นอุทาหรณ์ ก่อนตัดสินใจบริจาคหรือสมทบทุนใดๆ คนเราทุกวันนี้ไว้ใจกันยากจริงๆ, จำเคสนั้นได้ สงสารแอดมาก คงเสียความรู้สึกสุดๆ” อีกด้วย…..
ขอบคุณข้อมูล : ทำไมถึงเจ๊ง