ในคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา มีผู้ใช้เอ็กซ์โพสต์ภาพกลุ่มลูกไฟลึกลับขนาดใหญ่พุ่งผ่านท้องฟ้าทางทิศใต้ของสหรัฐ และมองเห็นได้จากหลายพื้นที่ สร้างความตกตะลึงและตื่นตกใจแก่ชาวเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เพิ่งมีข่าวพบเห็นโดรนลึกลับในนิวเจอร์ซีย์ และพื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ
หลังจากตรวจสอบแล้ว ลูกไฟเหล่านี้ไม่ใช่วัตถุลึกลับแต่อย่างใด ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ฝูงลูกไฟยักษ์ที่น่าตื่นตาตื่นใจนี้ คือเศษชิ้นส่วนดาวเทียมของจีนที่หมดอายุ พุ่งชนชั้นบรรยากาศของโลก
นักดาราศาสตร์โจนาธาน แมคดาวเวลล์ จากศูนย์ดาราศาสตร์ฟิสิกส์ฮาร์วาร์ด-สมิธโซเนียน โพสต์อธิบายบนเอ็กซ์ว่า ลูกไฟปริศนาเหล่านี้คือชิ้นส่วนของดาวเทียมที่ปลดประจำการ แล้วพุ่งเข้าสู่ชั้นบรรยากาศเหนือนิวออร์ลีนส์ เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ของคืนวันที่ 21 ธ.ค. ที่ผ่านมา และเผาไหม้จนมองเห็นเป็นลูกไฟยักษ์เหนือท้องฟ้าในพื้นที่มิสซิสซิปปี อาร์คันซอ และมิสซูรี
บนแพลตฟอร์มเอ็กซ์ มีผู้ใช้งานที่โพสต์คลิปวิดีโอของกลุ่มแสงที่ดูคล้ายดาวตกขนาดใหญ่ ก่อนจะแตกตัวเป็นลูกไฟขนาดย่อม ซึ่งก็คือชิ้นส่วนของดาวเทียมที่หลุดแยกออกจากกัน แมคโดเวลล์ กล่าวว่า ดาวเทียมดวงนี้ถูกใช้งานด้านการถ่ายภาพโดยบริษัทสเปซวิว ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีผู้แสดงความกังวลถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจาก “ขยะอวกาศ” เหล่านี้ แม้ว่าเหตุการณ์เศษซากยานอวกาศหรือดาวเทียมที่ตกลงสู่พื้นโลกนั้นเกิดขึ้นบ่อยมาก โดยมีเศษซากวัตถุประเภทนี้ราว 200-400 ชิ้น ที่ผ่านทุะลุชั้นบรรยากาศทุกปี ตามข้อมูลของสำนักงานบริหารบรรยากาศและมหาสมุทรแห่งชาติสหรัฐ (NOAA)
เศษซากเหล่านี้ส่วนใหญ่จะสลายตัวจนหมดก่อนถึงพื้นโลก และชิ้นส่วนขนาดใหญ่มักจะตกลงสู่มหาสมุทร NOAA กล่าวว่า มีเศษซากในอวกาศลอยอยู่ประมาณ 30,000 ชิ้น ที่มีขนาดใหญ่กว่าลูกซอฟต์บอล และประมาณ 1,000 ชิ้น มีขนาดใหญ่เท่ากับยานอวกาศ
ปกติแล้ว ทางองค์การอวกาศและการบินแห่งสหรัฐ หรือ NASA จะคอยติดตามขยะอวกาศเหล่านี้ด้วยเครือข่ายเฝ้าระวังอวกาศ ซึ่งใช้ทั้งอุปกรณ์บนอวกาศและภาคพื้นดิน
ที่มา : nypost.com
เครดิตภาพ : X / @rawsalerts