เมื่อเวลา 12.45 น. วันที่ 23 ธ.ค. ที่ร้านอาหารลิ้มเหล่าโหงว จ.เชียงใหม่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีฉายารัฐบาลพ่อเลี้ยง ที่สื่อมวลชนประจำทำเนียบรัฐบาล ตั้งให้กับรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี บุตรสาว ว่า สงสัยสื่อมวลชนเห็นว่ารัฐบาลพรรคเพื่อไทยน่าจะเป็นคนเหนือ เพราะคนเหนือชอบเรียกพ่อเลี้ยง และเมื่อพรรคเพื่อไทยทำเศรษฐกิจดี คน จ.เชียงใหม่ และคนเหนือก็จะเป็นพ่อเลี้ยงกัน
ส่วนที่มีการติงกันว่า น.ส.แพทองธาร อาจจะไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรี ตัวจริงนั้น นายทักษิณ กล่าวว่า ตนคิดว่าเขาเก่งกว่าตอนที่ตนเริ่มต้นด้วยซ้ำ น.ส.แพทองธาร ปรับตัวได้เร็วมาก แต่แน่นอนว่าไม่มีใคร คนใดคนหนึ่งที่จะรู้หรือทำอะไรได้ทุกเรื่อง ต้องมีทีมงานที่ช่วยกัน ทั้งทีมเศรษฐกิจและทีมต่างๆ ตนแค่อาจจะให้คำแนะนำไป แต่อย่าลืมว่า ลูกสาวคนเล็ก พ่อชี้นำไม่ค่อยได้ ส่วนใหญ่จะชี้นำพ่อ
เมื่อถามว่าฉายา “แพทองโพย” ที่ตั้งให้กับนายกรัฐมนตรีนั้น มีนายทักษิณเขียนสคริปต์ให้หรือไม่ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ไม่หรอกครับ เพราะว่าเขาชอบเล่นไอแพด ตั้งแต่เรียนหนังสือ จะมีโน้ตสำคัญไว้ในนั้น เวลาลืมก็จะได้ดู โดยเฉพาะเรื่องสำคัญที่ลืมไม่ได้ คือเรื่องต่างประเทศ ก็ต้องคอยจับประเด็นให้ได้”
เมื่อถามถึง ฉายาทวีไอพีของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ซึ่งมีการพาดพิงมาถึงนายทักษิณด้วย โดยเฉพาะกรณีชั้น 14 นายทักษิณ กล่าวว่า ไม่มีอะไร จริงๆ แล้ว ส่วนใหญ่เป็นงานของขาประจำ ตนมีขาประจำอยู่ หากว่างตนก็อยากชวนขาประจำมานั่งกินเหล้า มาพูดคุยกัน ขาประจำตน จะได้เลิกเป็นขาประจำตนสักที จะได้เข้าใจกันมากกว่านี้ บางคนหมั่นไส้ตน โดยที่ยังไม่รู้จักตัวตนของตน แต่ตนมีพรสวรรค์ ไม่ใช่พรนรกก็แล้วกัน คนที่ไม่รู้จักก็สามารถหมั่นไส้ตนได้ เมื่อถามว่าที่เช็กลิสต์ไว้มีประมาณกี่คน นายทักษิณ กล่าวว่า ประมาณ 10 กว่าคน หน้าเก่าๆ และก็เห็นๆ กันอยู่
ต่อข้อถามว่า เป็นกลุ่มเดียวกับที่ออกมายื่นร้องต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เมื่อวันก่อนหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า จำนวนหนึ่ง แต่ไม่เป็นอะไร ใครยื่นก็ยื่นไป ถ้ายื่นผิดแล้วก็ต้องคอยตั้งรับ ยื่นมาเลย ไม่มีปัญหา ตนไม่ได้ขู่ tit-for-tat is a fair play ซึ่งเป็นวลีการตอบโต้ฝ่ายตรงข้าม ลักษณะเดียวกันกับสำนวนไทยว่า ”หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง”
เมื่อถามว่า การไล่เช็กบิลนั้น มองว่าจะกลับสู่วังวนเดิมหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวว่า สื่อมวลชนยังเหนื่อยแทบตาย แต่คนพวกนี้ไม่รู้จะทำอะไร ร้องอย่างเดียว อาชีพไม่มี ไม่มีการเสียภาษี บางคนไปซื้อที่ดินแถวริมทะเลก็มี มันตลก บ้านเมืองต้องไม่ปล่อยให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น เพราะเกิดความสับสนวุ่นวาย
เมื่อถามถึง กรณีที่นายแก้วสรร อติโพธิ นักวิชาการอิสระ ออกมาระบุว่า สามารถพานายทักษิณกลับไปที่เดิมได้ ทันทีที่นายทักษิณฟังคำถามจบ กล่าวทันทีว่า “สาธุ” ก่อนกล่าวต่อว่า ให้พาไปทั้งพี่ทั้งน้องเลย หมายถึงน้องเขาแฝดอะ