เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 23 ธ.ค. 67 ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกุล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กองอาสารักษาดินแดน (อส.) ใช้อาวุธปืนยิงในร้านข้าวต้ม หลังมีปากเสียงเจ้าของร้าน-เด็กเสิร์ฟ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จนทำให้มีผู้เสียชีวิต ว่า เรื่องนี้แย่ น่าเสียใจ โดยอย่างแรกที่กระทรวงมหาดไทยดำเนินการคือปลดออกจากตำแหน่ง และดำเนินคดีอย่างเต็มที่กับผู้กระทำผิดครั้งนี้ กฎหมายระบุไว้ว่าหากเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องมีสำนึกรับผิดชอบต่อหน้าที่ ต้องดูแลประชาชน และเมื่อเป็นคนของรัฐ และหากกระทำผิดต้องโทษทวีคูณ
นายอนุทิน กล่าวต่อว่า ส่วนตัวตนนั้นมีความสนิทสนมกับ อส. แต่หาก อส. ทำตัวอันธพาลเช่นนี้ ก็ต้องดำเนินการอย่างเต็มที่ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ประชาชนจะได้เห็นว่าเราปกป้องคนกระทำผิด ส่วนเรื่องการพกอาวุธปืนนั้น หาก อส. อยู่ในหน้าที่ สามารถพกอาวุธได้เพราะเป็นเจ้าพนักงานของรัฐ แต่หากอยู่นอกเวลาราชการ ไม่มีสิทธิที่จะพกอาวุธปืน และจะมีความผิดเพิ่มขึ้นมาเป็นอีกหลายกระทง เราจึงต้องเร่งดำเนินการกับผู้กระทำผิดอย่างเต็มที่ และคิดว่าหากแค่ปลดออกจากตำแหน่งคงง่ายไป ต้องดำเนินการอย่างถึงที่สุด เพราะคนเป็นเจ้าหน้าที่ของบ้านเมืองทำผิดไม่ได้
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ผ่านมา มีเรื่องการกระทำความรุนแรงของ อส. นั้น นายอนุทิน กล่าวปฏิเสธว่า ไม่เป็นความจริง เพราะที่ผ่านมา อส. เป็นผู้ถูกกระทำมากกว่า และขอว่าอย่าเอาข่าวเดียวมาตัดสิน อส. ทั้งหมด ซึ่งตั้งแต่ตนเข้ามารับตำแหน่ง รมว.มหาดไทยนั้น ก็ได้ประสานงานกับกองทัพบก เพื่อเพิ่มศักยภาพของ อส. ให้มีความใกล้ชิดกับประชาชน และสนิทสนมพูดคุยกับประชาชนมากขึ้น และมีศักยภาพในการป้องกันตัวเองเพิ่มขึ้นกว่าเดิม
“เป็นเรื่องธรรมดาที่จะมี อส. ที่เกเรอยู่บ้าง จากจำนวนทั้งหมด 30,000 คน แต่อย่างไรก็ตาม ก็ต้องกำชับให้นายอำเภอนั้นไปดูแลในเรื่องของระเบียบวินัยของ อส. ต่อจากนี้ด้วยเช่นเดียวกัน” นายอนุทิน กล่าว.