ที่ชั้น 2 ห้องประชุมศูนย์ OTOP องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ซึ่งเป็นสถานีที่รับสมัครนายก อบจ.ศรีสะเกษ และ สจ.ศรีสะเกษ หลัง คณะกรรมการเลือกตั้งประจำจังหวัดศรีสะเกษ ได้มีการเปิดรับสมัคร นายก อบจ.ศรีสะเกษ และ สจ.ศรีสะเกษ ตั้งแต่วันที่ 23-27 ธ.ค. 67 โดยวันแรกรับสมัคร นายก อบจ.ศรีสะเกษ และ สจ.ศรีสะเกษ มีทั้งหน้าเก่าหน้าใหม่ เดินหน้าเข้ามาสมัครกันคึกคัก โดยเฉพาะผู้สมัครชิงตำแหน่งนายก อบจ. ตัวเกร็ง 2 ท่าน คือ นายวิชิต ไตรสรณกุล แชมป์เก่า ตัวแทน “กลุ่มฅนท้องถิ่น” และ นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ อดีต สส.ศรีสะเกษ เขต 3 ซึ่งเป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทย โดยมีกองเชียร์จากผู้สมัครท่านอื่นๆ มาสร้างสีสันให้กับการสมัครในครั้งนี้

บรรยากาศช่วงเช้า มีผู้มาลงสมัครที่ลงชื่อก่อนเวลา 08.30 น. อยู่ 8 ท่าน ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ซึ่งเป็นตัวเกร็งในการเลือกตั้ง นายก อบจ.ศรีสะเกษ ครั้งนี้ ทำให้ผู้สมัคร 8 ท่าน ที่มาลงสมัครก่อน 08.30 น. ต้องทำการจับสลากหาลำดับผู้ยื่นใบสมัคร และเบอร์ผู้สมัครก่อน ซึ่ง นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ หนึ่งในตัวเกร็งที่มาเปิดตัวว่าลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทย ครั้งนี้ได้เบอร์สมัครหมายเลข 1 ส่วนแชมป์เก่า คือ นายวิชิต ไตรสรณกุล แชมป์เก่า มาลงชื่อช้ากว่า เวลา 08.30 น. เลยต่อรอคิวยืนใบสมัครตามลำดับ ซึ่งล่าสุด นายวิชิต ไตรสรณกุล แชมป์เก่า ได้เบอร์สมัครหมายเลข 7 ทั้งนี้ ภาคเช้ามีผู้สมัครชิงตำแหน่ง นายก อบจ.ศรีสะเกษ รวมทั้งหมด 11 ท่าน

นายวิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ เปิดเผยหลังยืนใบสมัครแล้วเสร็จ ว่า ตอนนี้คนพร้อมที่จะมาเปลี่ยนแปลงจังหวัดศรีสะเกษให้ดีขึ้น โดยมีนโยบายหลักอยู่ 3 ด้าน คือ ด้านพัฒนาเศรษฐกิจ ให้พี่น้องเกษตรกรทุกพื้นที่มีน้ำใช่ มีไฟฟ้าใช้ในการเกษตร มีการส่งเสริมสนับสนุนส่งเสริมการตลาด ด้านการพัฒนาถนนรอยต่ออำเภอกับอำเภอ ตำบลกับตำบล เพื่อให้มีการสัญจรไปมาได้อย่างสะดวกสบาย และด้านการพัฒนาการท่องเที่ยวในทุกพื้นที่ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในชุมชนคนท้องถิ่น

นายวิวัฒน์ชัย กล่าวต่อไปว่า ส่วนคู่แข่งที่เป็นแชมป์เก่านั้น ส่วนตัวมั่นใจที่จะสู้ศึกในครั้งนี้ เพราะที่ผ่านมาตลาดเวลากว่า 20 ปี พี่น้องประชาชนยังมีความเดือดร้อนอยู่เหมือนเดิม ทำให้ตนอยากจะเข้ามาเปลี่ยนแปลง โดยจะมี สส.ศรีสะเกษ ในพื้นที่ ช่วยกันในการขับเครื่อง แก้ไขปัญหา ในการสู้ศึกครั้งนี้

ขณะที่ นายวิชิต ไตรสรณกุล เปิดเผยว่า ตนมีความมั่นใจในการลงสมัครนายก อบจ. ในครั้งนี้มาก และตนก็มีความมั่นใจว่าในทุกครั้งที่ได้รับตำแหน่งที่ผ่านมา ตนทำงานเพื่อประชาชนเต็มที่แล้ว ตนยอมรับว่ามีความกังวลและหนักใจในเรื่องคู่แข่งตัวเต็งของตัวแทนพรรคเพื่อไทย โดยปกติการลงสมัครแข่งขันในสมัยที่ผ่านมา ก็จะเป็นการแข่งโดยทั่วไม่มีนักการเมืองเข้ามายุ่งเกี่ยว แต่ครั้งนี้ในการรับสมัครนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง ถึงคู่แข่งจะมาในรูปแบบใดก็ตามตนก็ไม่กลัว เพราะที่นี่คือจังหวัดศรีสะเกษ และคิดว่าประชาชนคงจะเลือกคนในพื้นที่มากกว่า ที่ผ่านมาตนทำงานหนักมาโดยตลอด คิดว่าประชาชนคงจะรับรู้