สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากเมืองซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. ว่า กูเกิล ยื่นฟ้องคำสั่งความยาว 12 หน้า ซึ่งแบนบริษัทจากการแจกจ่าย หรือนำการปฏิบัติที่เอื้ออำนวยต่อซอฟต์แวร์บนอุปกรณ์พกพา เป็นเงื่อนไขอนุญาตสิทธิการใช้งานแอปพลิเคชันยอดนิยมต่าง ๆ เช่น กูเกิลโครม, กูเกิลเพลย์ หรือเจมิไน
ในทางตรงกันข้าม รัฐบาลสหรัฐดำเนินการเมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา ขอให้ผู้พิพากษาสั่งยุบบริษัท กูเกิล ด้วยการขายเว็บเบราว์เซอร์โครม ซึ่งใช้กันอย่างแพร่หลาย นับเป็นการปราบปรามการผูกขาดครั้งใหญ่ต่อบริษัท
ทั้งนี้ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐ เรียกร้องให้มีการปรับโครงสร้างธุรกิจของกูเกิล ซึ่งรวมถึงการห้ามไม่ให้กูเกิลเป็นเสิร์ชเอนจินเริ่มต้นบนสมาร์ตโฟน และการแสวงหาผบประโยชน์จากระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ โดยนายอามิต เมห์ตา ผู้พิพากษาศาลแขวงสหรัฐ ในกรุงวอชิงตัน ตัดสินเมื่อเดือน ส.ค. ที่ผ่านมาว่า กูเกิลผูกขาดการค้นหา และดำเนินการเพื่อรักษาการผูกขาดเอาไว้
“ไม่มีสิ่งใดในคำพิพากษาถึงที่สุด ซึ่งห้ามกูเกิลจากการพิจารณาผู้ผลิตอุปกรณ์พกพา หรือผู้ให้บริการไร้สายรายใดรายหนึ่ง เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์หรือบริการของกูเกิล เพื่อแลกกับการจัดจำหน่าย การติดตั้งตัวกระจายสัญญาณ การโปรโมต หรือการอนุญาตสิทธิใช้งานผลิตภัณฑ์หรือบริการของกูเกิล” กูเกิล ระบุ
อนึ่ง การเรียกร้องให้ยุบกูเกิลในครั้งนี้ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในหน่วยงานกำกับดูแลของรัฐบาลวอชิงตัน ซึ่งส่วนใหญ่ปล่อยเลยตามเลยบริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยี นับตั้งแต่ทางการประสบความล้มเหลวในการยุบบริษัท ไมโครซอฟท์ เมื่อ 20 ปีที่แล้ว.
เครดิตภาพ : AFP