เมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 22 ธ.ค. 2567 ร.ต.อ.กฤษดา หมุนมิตร รอง สว.(สอบสวน) สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บหลายราย ในร้านข้าวต้ม ครัวภาวนา ถนนนวลแก้วอุทิศ ต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.ภูมิ บาลทิพย์ ผกก.สภ.หาดใหญ่ พ.ต.อ.ดุสิต พรหมสิน ผกก.สส.ภ.จว.สงขลา ชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่ ชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ชุดสืบสวนภาค 9 เจ้าหน้าที่ สพฐ.9 แพทย์เวร รพ.หาดใหญ่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยมิตรภาพสามัคคีหาดใหญ่

ที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิตรายแรก ทราบชื่อนายสิทธิพงศ์ ศิริพันธ์ อายุ 48 ปี มีบาดแผลถูกยิงเข้าศีรษะ เสียชีวิตคาที่ และมีผู้บาดเจ็บถูกนำส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้อีก 4 ราย ประกอบด้วย น.ส.อรชอน เอียดคำ อายุ 45 ปี ถูกยิงเข้าศีรษะ ภรรยาผู้เสียชีวิต ซึ่งทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา และลูกสาวของทั้งสองอายุ 6 ขวบ บาดเจ็บที่ศีรษะ ซึ่งทั้งหมดเป็นครอบครัวเดียวกัน มาเลี้ยงวันเกิดที่ร้าน ส่วนผู้บาดเจ็บอีก 2 รายทราบชื่อ น.ส.ภาวนา อุดทา อายุ 46 ปี เป็นเจ้าของร้าน ถูกยิงบริเวณศีรษะ และนายสุริยา สุประดิษฐ์ อายุ 42 ปี ลูกค้า บาดเจ็บบริเวณแขนขวา ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลหาดใหญ่

ตรวจสอบที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนขนาดเดียวกันตกอยู่ 8 ปลอก กระจายอยู่ทั่วร้าน จึงเก็บและบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ส่วนผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อ นายอัครพณธ์ อายุ 50 ปี เป็น อส.อ.หาดใหญ่ หลังก่อเหตุได้เข้ามามอบตัวกับ พ.ต.ท.อนุวัฒน์ ฤทธิชัย รอง ผกก.สส.สภ.หาดใหญ่ พร้อมอาวุปืน 9 มม. ที่ใช้ก่อเหตุ จึงควบคุมตัวไปสอบสวน

เบื้องต้น พยานให้การว่า ผู้ก่อเหตุได้มาที่ร้านคนเดียวและได้สั่งเหล้ามากิน กระทั่งเดินออกไปสูบบุหรี่ริมถนน ได้มีเด็กเสิร์ฟในร้านมาเก็บโต๊ะ โดยที่ไม่รู้ว่ายังกินไม่เสร็จ ทำให้ผู้ก่อเหตุไม่พอใจ มีปากเสียงกับเจ้าของร้านและเด็กเสิร์ฟ หลังจากนั้นก็ขับรถออกไป สักพักก็ขับรถกลับมา และมีปากเสียงกับเจ้าของร้านอีกครั้ง ก่อนชักอาวุธปืนกระหน่ำยิงใส่ทั้งร้าน กระสุนไปถูกนายสุทธิพงศ์ และ น.ส.อรชอน ที่พาลูกสาว 6 ขวบ และลูกชาย มาเลี้ยงฉลองวันเกิดครบ 12 ขวบ จนมีผู้บาดเจ็บแล้วเสียชีวิตดังกล่าว

เด็กชาย อายุ 12 ขวบ เจ้าของวันเกิดกล่าวทั้งน้ำตาว่า ตัวเองและครอบครัว มาเลี้ยงวันเกิด ครบรอบ 12 ขวบ และมานั่งกินข้าวกัน เห็นผู้ก่อเหตุกับเจ้าของร้าน มีปากเสียงกัน ก่อนพ่อและแม่ถูกยิงเสียชีวิต ส่วนน้องสาวบาดเจ็บ โดยที่ครอบครัวตนไม่เกี่ยวข้องและไม่รู้อะไรเลย

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด และจะตรวจสอบวงจรปิดไว้เป็นหลักฐาน ก่อนสอบปากคำผู้ก่อเหตุอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป