สำนักข่าวซินหัวรายงานจากเมืองลาซา ประเทศจีน เมื่อวันที่ 22 ธ.ค. ว่ารายงานโดยสำนักงานการบริหารจัดการแห่งพระราชวังโปตาลา ระบุว่า งบประมาณดังกล่าวถูกใช้ในหลายโครงการ เช่น การซ่อมแซมโครงสร้างหลัก การบูรณะหลังคาทองคำ การติดตามตรวจสอบโครงสร้าง การอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากตำราและเอกสารโบราณ รวมถึงการพัฒนาระบบจำหน่ายบัตรเข้าชมทางออนไลน์
อนึ่ง ปีนี้นับเป็นวาระครบรอบ 30 ปี ที่พระราชวังโปตาลาได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก จากองค์การการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรม แห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก)
พระราชวังโปตาลาตั้งอยู่ที่เมืองลาซา เมืองเอกของเขตปกครองตนเองทิเบต สร้างขึ้นในศตวรรษที่ 7 โดยพระเจ้าซงเซินกัมโป กษัตริย์ทิเบต และมีการก่อสร้างเพิ่มในศตวรรษที่ 17 พระราชวังแห่งนี้เป็นที่เก็บรักษาคัมภีร์ เอกสารทางประวัติศาสตร์ และวัตถุโบราณอันล้ำค่า เช่น รูปปั้น ภาพวาด และจิตรกรรมฝาผนัง จึงเป็นหนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวมีชื่อเสียงโด่งดังที่สุดของทิเบต
พระราชวังโปตาลา เป็นสถาปัตยกรรมโบราณที่ใช้โครงสร้างผสมจากทั้งดิน หิน และไม้ เคยผ่านการบูรณะใหญ่มาแล้วสองครั้ง ครั้งแรกระหว่างปี 2532-2537 และครั้งที่สองช่วงต้นศตวรรษที่ 21 โดยกระบวนการบูรณะทุกขั้นตอนมุ่งปฏิบัติตามหลักการ “ฟื้นฟูของเก่าให้คงสภาพเดิม” และใช้ทักษะงานฝีมือดั้งเดิมอย่างเต็มที่ในการซ่อมแซม
การบูรณะครั้งใหญ่ทั้งสองครั้งได้ช่วยแก้ปัญหาสำคัญให้กับโครงสร้างหลักของพระราชวังที่เสี่ยงเกิดความเสียหายร้ายแรง และวางรากฐานที่มั่นคงสำหรับการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์ในระยะยาว
ทั้งนี้ สำนักงานบริหารของพระราชวังได้ก่อตั้งฝ่ายงานบำรุงรักษาขึ้น ปัจจุบันมีช่างฝีมือดั้งเดิมในท้องถิ่นเช่น ช่างไม้ ช่างตัดเย็บ และช่างเขียนภาพ รวมมากกว่า 60 คน
นอกจากนี้ พระราชวังโปตาลามีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงประจำการต่อเนื่องยาวนาน 40 ปี และไม่เคยเกิดเหตุเพลิงไหม้แม้แต่ครั้งเดียว ตลอดระยะเวลาสี่ทศวรรษที่ผ่านมา และเมื่อปี 2558 เขตปกครองตนเองทิเบตยังได้ออกกฎระเบียบ ว่าด้วยการคุ้มครองพระราชวังโปตาลา เพื่อเสริมสร้างการอนุรักษ์มรดกโลกแห่งนี้ ผ่านการบังคับใช้กฎหมายท้องถิ่น.
ข้อมูล-ภาพ : XINHUA