สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากเมืองแฟรงก์เฟิร์ต ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ว่า ข้อตกลงเลิกจ้างครั้งนี้ จะช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของยุโรป ประหยัดงบประมาณได้ราว 4,000 ล้านยูโร (ราว 142,736 ล้านบาท) ต่อปี

ขณะเดียวกัน สหภาพแรงงานไอจี เมทัลล์ แสดงความยินดีต่อข้อตกลงดังกล่าว โดยระบุว่า จะช่วยหลีกเลี่ยงการเลิกจ้างโดยบังคับ และการปิดโรงงานได้ ซึ่งก่อนหน้านี้ โฟล์คสวาเกนได้พิจารณาปิดฐานการผลิตทั้งหมดในเยอรมนี ซึ่งถือเป็นการเคลื่อนไหวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ตลอดประวัติศาสตร์ 87 ปีของบริษัท

ปัจจุบัน โฟล์คสวาเกนต้องดิ้นรนกับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานยนต์ไฟฟ้า และการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากผู้ผลิตจากจีน เช่นเดียวกับ อาวดี้ ปอร์เช่ และสโกดา ซึ่งล้วนเป็นบริษัทรถยนต์รายใหญ่ของเยอรมนี ล้วนกำลังต่อสู้กับความต้องการที่ลดลง รวมถึงต้นทุนแรงงานและการผลิตที่สูงขึ้นในยุโรป

ทั้งนี้ สหภาพแรงงานแถลงว่า “จะไม่มีการปิดโรงงาน” แต่โรงงาน 10 แห่งของโฟล์คสวาเกนในเยอรมนี จะลดการผลิต ซึ่งแน่นอนว่า จะส่งผลต่อการสูญเสียตำแหน่งงาน ขณะที่โรงงานบางแห่งมีกำหนดหยุดการผลิตในสิ้นปี 2568 และบางแห่งจะดำเนินการถึงปี 2570

ในระหว่างนี้ จะมีการเลิกจ้างพนักงาน 4,000 ตำแหน่ง ที่โรงงานหลัก ภายในปี 2573 และการผลิตรถกอล์ฟจะถูกย้ายไปยังโรงงานในประเทศเม็กซิโก ส่วนฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าจะลดลงเหลือเพียง 1 สายการผลิต

บริษัทระบุว่า ภายใต้แผนรัดเข็มขัด จำนวนเงินที่ลดลง 1,500 ล้านยูโร (ราว 53,526 ล้านบาท) จะมาจากต้นทุนแรงงานที่ลดลง และการลดจำนวนพนักงานอย่างค่อยเป็นค่อยไป

นอกจากนี้ มีการคาดหมายว่า จะมีการตรึงเงินเดือนพนักงานของโฟล์คสวเกน ในปี 2568-2569 และจะกระจายโบนัสที่ตกลงกันไว้ก่อนหน้านี้ต่อไปเป็นเวลาหลายปี.

เครดิตภาพ : AFP