ตลอดปีที่ผ่านมา มีหลายคดีปรากฏภาพทุ่มกาย เทใจ จนเป็นที่พูดถึงและยังติดตา-ตรึงใจคอข่าว หนึ่งในนั้นเชื่อว่า ทีมสืบนครบาล (IDMB) เป็นตำรวจอีกชุดที่สามารถพลิกแพลง แฝงตัวเข้าจับกุมคนร้ายได้อย่างราบรื่น และมีสีสันมากชุดหนึ่ง

เช่นล่าสุดกับปฏิบัติการแฝงตัวแกะรอยรวบคนร้าย ก่อเหตุล่วงละเมิดเด็กหญิงวัย 12 ขวบ หลังล่อลวงให้ออกมากินขนม…

แวบแรกหลายคนอาจเห็นเป็นกอหญ้า สไนเปอร์ หรือทหารราบ ก็ตามแต่จินตนาการ กำลังปฏิบัติการคืบคลานบนเถียงนาเข้าหาเป้าหมาย เพื่อไม่ให้ไหวตัว

ปฏิบัติการนำโดย พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ หรือ สารวัตรแจ๊ะ สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. ที่ตัดสินใจงัดแผนให้ชุดสืบพรางกายสไตล์ Pubg (ชื่อเกมแนวเอาชีวิตรอดยอดฮิต) คลานต่ำกว่า 300 เมตร ผ่านทุ่งนาเข้าไปล็อกเป้าผ่านการใช้กล้องส่องทางไกลชี้เป้าก่อนบุก กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมาก

“ทีมข่าวอาชญากรรม” มีโอกาสเปิดเบื้องหลังแผนซุ่มจับที่ประสบความ “สำเร็จ” ขณะเดียวกันสะท้อนการประยุกต์หลักสูตร เพื่อเป้าหมายพิชิตคดี

ในเรื่องนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ หรือ ผู้การจ๋อ ผบก.สส.บช.น. เล่าที่มาที่ไปคดีนี้มีการรับแจ้งผ่านสายสืบ ส่งต่อขอความช่วยเหลือ เพื่อให้ติดตามจับกุมนายนภดล หรือ บังดีน ชาว จ.ฉะเชิงเทรา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญามีนบุรีที่ จ.1611/2567

ข้อหาร่วมกันเป็นธุระจัดหาบุคคลอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยใช้อุบายหลอกลวง ใช้กำลังประทุษร้าย, พรากเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี ไปเพื่อหากำไร หรือเพื่อการอนาจาร, กระทำชำเราเด็กอายุยังไม่เกิน 15 ปี โดยการร่วมเพศทาง อวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือ ช่องปาก หรือการใช้สิ่งอื่นกระทำกับอวัยวะเพศหรือทหารหนักของผู้อื่น คดีดังกล่าวผู้เสียหายเป็นเด็กวัย 12 ขวบ ชุดสืบใช้เวลาแกะรอยคนร้ายประมาณ 2 วัน

ส่วนที่เลือกแฝงตัวมาจาก “พิกัด” บ้านต้องสงสัย เป็นบ้านพักไม่มีเลขที่ หมู่ 17 ต.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา อยู่ในสภาพมีทางเข้า-ออกขนาดเล็กทางเดียว ลักษณะลึกเข้าไปในเถียงนา หลังบ้านเป็นแม่น้ำ เกรงว่าเข้าไปปฏิบัติการแตกแน่นอน จำเป็นต้องใช้กล้องส่องทางไกลยืนยันตัวตนก่อนลงมือ

“สมรภูมิทางเข้าออกทางเล็ก ๆ ทางเดียว ลึกเข้าไปในเถียงนา ด้านหลังมีแม่น้ำ ถ้าเข้าไปเคสซิ่งแตกแน่นอน กล่าวคือ หากเข้าไปตรวจสอบคนร้ายจะรู้ตัวแน่นอน จึงต้องใช้แผนทหารราบมุดเข้าไปใช้กล้องส่องทางไกลให้ยืนยันตัวได้ก่อน”

อย่างไรก็ตาม ข้อสงสัยเหตุใดต้องแฝงตัวเป็น “ทหารราบ” พล.ต.ต.ธีรเดช ระบุสั้น ๆ ตอนแรกจะให้เป็น “หุ่นไล่กา” แต่กลัวจะไม่แนบเนียน

พล.ต.ต.ธีรเดช ยังมองประเด็นที่มักปรากฏภาพการจับกุมของชุดสืบนครบาลที่ทุ่มเทสุดตัวหลายต่อหลายครั้งว่า เพราะทุกคนทำงานด้วยอุดมการณ์ แต่ที่ถูกใจประชาชนอาจเป็นเพราะการสืบสวน “นอกกรอบ” ฉีกทุกมิติ

อย่างไรก็ตาม จากกรณีที่เกิดขึ้นกับเด็กวัย 12 ขวบ ที่คนร้ายทำทีตีสนิทผ่านแอปพลิเคชันเฟซบุ๊ก ชักชวนไปนั่งเล่นกินขนม ก่อนล่อลวงไปรีสอร์ทแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.นครนายก และฉวยโอกาสตอนเพื่อนไม่อยู่ข่มขืนกระทำชำเรา และพาตัวเด็กไปปล่อยทิ้งข้างทางในพื้นที่ย่านหนองจอก

ดังนั้น ฝากเตือนไปถึงผู้ปกครองให้หมั่นตรวจสอบ สอดส่องพฤติกรรมเด็ก เพราะโลกโซเชียลอาจทำให้เด็กคิดหรือกระทำการ “เกินวัย” โดยที่ยังมีภาวะไม่เพียงพอ จึงเป็นหน้าที่ของพ่อแม่ต้องเพิ่มความระมัดระวัง และต้องวางมาตรการที่ชัดเจนกับลูกด้วย

ทีมข่าวอาชญากรรม รายงาน