เรียกได้ว่านาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จักกับ ทีมสืบนครบาล ที่ปิดม่านไขคดีดังให้ประชาชนมาอย่างต่อเนื่อง โดยแต่ละครั้งที่ปิดคดีได้ก็มักตกเป็นที่พูดถึงในแวดวงโซเชียลล้นหลาม ทั้งเอ็นดูเจ้าหน้าที่ต้องปลอมตัวเพื่อสืบอย่างทุลักทุเล ขณะที่ความเห็นชาวเน็ตบางส่วนตั้งคำถามว่าทีมนี้สร้างขึ้นมาเพื่ออะไรกันแน่ เพราะดูทำงานซ้ำซ้อนกับการทำงานในโรงพักแต่ละพื้นที่นั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ธ.ค. 2567 ในรายการโหนกระแส “หนุ่ม-กรรชัย กำเนิดพลอย” ผู้ดำเนินรายการได้เชิญ “พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์” หรือ บิ๊กจ๋อ มานั่งพูดคุยเกี่ยวกับประเด็นที่หลายคนสงสัย กับเทปที่ชื่อว่า จับยังไงให้ได้คอนเทนต์ “สืบนครบาล” ยุคใหม่ เป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว

ยุทธวิธีของสืบนครบาล เป็นแบบนี้มานานมาแล้ว หรือเพิ่งมาปรับใช้?
จริง ๆ เป็นเทคนิคการสืบสวนมาตั้งแต่อดีต รุ่นผมที่มีอาจารย์มาสอนก็ใช้เทคนิคการสืบสวนแบบนี้แหละ แต่ว่าไม่มีการเปิดเผย ซึ่งตอนนี้เราได้ทำการผสมผสาน และทีมนี้เราตั้งขึ้นมาตั้งแต่สมัยที่ ท่านพลตำรวจโทธิติ แสงสว่าง เป็นผู้บัญชานครบาลตอนนั้นท่านมีคำสั่งว่า อยากจะตั้งทีมไล่ลานักข่มขืนหรือนักข่มขืนต่อเนื่อง ผมก็ได้สร้างทีมนี้ขึ้นมา และถ้าจะดูก็ไม่ใช่แค่สืบนครบาลนะ เพราะผมจะมีลูกศิษย์ที่มาจากหลักสูตรสืบสวน และจะเลือกคัดคนที่มี DNA เดียวกันเพื่อเข้ามาในทีม
หลายคนอาจจะไม่เข้าใจว่า สืบนครบาลมีหน้าที่ต้องทำอะไรหรือต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับอะไรยังไง เพราะตอนนี้ประชาชนอาจจะงงมีทั้ง สอบสวนกลาง, นครบาล, สืบสวนนครบาล, ตำรวจไซเบอร์ เยอะมากมาย ซึ่งสืบนครบาลถ้าให้พูดเจาะจงต้องเกี่ยวกับคดีอะไร
สืบนครบาล จริง ๆ แล้วที่นี่เป็นตำนานในอดีต หรือที่เมื่อก่อนเขาเรียกว่า สืบเหนือ, สืบใต้, สืบธน สำหรับสืบเหนือดูแลรับผิดชอบฝั่งเหนือของกรุงเทพมหานคร สืบใต้ดูแลรับผิดชอบฝั่งใต้ของกรุงเทพมหานคร และสืบธนดูแลรับผิดชอบธนบุรี ต่อมากฎหมายมีการเปลี่ยนแปลงมีการรวมทั้ง 3 หน่วย มาเป็นสืบนครบาลและพวกเรารับผิดชอบแค่ในกรุงเทพมหานคร และจะเป็นคดีสะเทือนขวัญอย่างเช่น คดีฆาตกรรม, คดีเรียกค่าไถ่ และคดีที่ผู้บังคับบัญชาสั่งการ

แต่วันนี้ผมมีนโยบายใหม่ตั้งแต่ ท่านสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เราปรับว่ามาทำคดีที่ประชาชนเดือดร้อนดีกว่า และเป็นคดีที่ประชาชนไปหาใครไม่ได้ อาจจะมีความเสียหายน้อยในสังคม แต่จริง ๆ เป็นเงินเก็บทั้งชีวิตของเขา ก็จึงสร้างทีมและเปลี่ยนนโยบายให้ทั้งหน่วย และวันนี้มาแค่ตัวแทนนะ แต่จริง ๆ เรามีลูกน้องทั้งหมด 300 ชีวิต
ซึ่งเมื่อก่อนนักสืบเปิดหน้าไม่ได้ แต่ว่าผมใช้ความคิดต่าง ผมได้มีโอกาสไปอบรมต่างประเทศ ก็มีความรู้สึกว่าถ้าเราปิดหน้าตำรวจตอนทำงานเยาวชนจะเข้าไปสู่นิยมอาชญากร, นิยมนักโทษ, นิยมคนร้าย วันนี้เราก็เลือกส่วนหนึ่งให้เปิดหน้าแล้วมันก็ได้ผลโดยเฉพาะเยาวชนคนรุ่นใหม่…
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพ : รายการโหนกระแส