เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ตำรวจกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 นำกำลังหมายจับศาลอาญามีนบุรี ที่ จ 1637/2567 จับกุมตัวน.ส.พัชราภรณ์ อายุ 30 ปี ชาว จ.สระแก้ว ในความผิดฐาน “ร่วมกันลักทรัพย์โดยลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน, ร่วมกันโดยทุจริต หรือโดยหลอกลวง นําเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ, ร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบและเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่ทรัพย์สินของผู้อื่น และเปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากฯ โดยประการที่รู้หรือควรรู้ว่าจะนำไปใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีหรือคามผิดทางอาญาอื่นใด”
สืบเนื่องจากเมื่อช่วงปี 2566 มีผู้เสียหายเป็นข้าราชการบำนาญครู อายุ 65 ปี เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ว่ามีคนร้ายแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของสภาการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โทรศัพท์ติดต่อมาเพื่อแจ้งสิทธิในการขอรับเงินบำเหน็จดำรงชีพของผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป โดยจะได้รับเงินบำเหน็จดำรงชีพ จำนวน 200,000 บาท แต่มีเงื่อนไขต้องเข้าไปกรอกข้อมูลยืนยันสิทธิเพื่อขอรับเงินก่อน จากนั้นคนร้ายได้ส่งลิงก์มาให้ทางข้อความ
เมื่อกดเข้าไปที่ลิงก์ดังกล่าวพบว่าเป็นไลน์ของกรมบัญชีกลาง จึงเข้าไปกรอกข้อมูลส่วนบุคคลตามที่คนร้ายแนะนำ และให้ทำการแสกนใบหน้าจำนวนหลายครั้ง จากนั้นคนร้ายให้เดินทางไปยืนยันตัวตนเพื่อรับเงินบำเหน็จดำรงชีพหน้าตู้เอทีเอ็ม จึงเดินทางไปที่ตู้เอทีเอ็มของธนาคารแล้วเสียบบัตรประจำตัวประชาชนและทำการแสกนใบหน้าในการยืนยันตัวตน เมื่อยื่นยันตัวตนเสร็จแล้ว พบว่าไม่ได้รับเงินบำนาญตามที่คนร้ายบอก และพบว่าเงินในบัญชีถูกโอนออกไปกว่า 4 ล้านบาท
ต่อมาชุดสืบสวนกก.1 บก.สอท.1 ทำการสืบสวนจนทราบว่าน.ส.พัชราภรณ์ เป็นเจ้าของบัญชีปลายทางรับเงินของผู้เสียหายที่ถูกโอนออกไป จึงรวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติศาลออกหมายจับ โดยติดตามจับกุมได้ในพื้นที่อ.วังสมบูรณ์ จ.สระแก้ว สอบสวนเบื้องต้นให้การยอมรับว่าเป็นบุคคลตามหมายจับจริง ก่อนควบคุมตัวนำส่งพรักงานสอบสวนกก.1 บก.สอท.1 ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป