เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) นายสมชาติ พินิจอักษร ทนายความส่วนตัวของ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน กก.3 บก.ป. เพื่อตรวจสอบรายละเอียดและเซ็นรับรองเอกสารคำให้การพยานบุคคลฝั่งผู้เสียหายที่ใช้สำหรับประกอบสำนวนคดีที่มีการแจ้งความเอาผิดนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม โดยเดินทางมาตั้งแต่เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

ต่อมานายสมชาติ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า วันนี้มาให้การเพิ่มเติมเก็บตกรายละเอียดบางประเด็นเล็กน้อย เพื่อให้สำนวนครบถ้วนสมบูรณ์มากขึ้น รวมถึงเข้ามาเซ็นเอกสารรับรองคำให้การ ซึ่งเอกสารดังกล่าวมีค่อนข้างเยอะ จึงต้องใช้เวลาพอสมควร “ส่วนตัวเชื่อว่า ข้อมูลรายละเอียดทางฝั่งของผู้เสียหายที่ให้กับทางพนักงานสอบสวนน่าจะครบถ้วนแล้ว และตัวของ น.ส.จตุพร เอง ก็ไม่ได้มีความกังวลใดๆ”

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า น.ส.จตุพร หรือ เจ๊อ้อย กลับมาไทยแล้วหรือไม่ และได้มอบหมายภารกิจพิเศษใดให้ทำต่อหรือไม่ นายสมชาติ ตอบว่า ตอนนี้ น.ส.จตุพร ยังอยู่ที่ประเทศฝรั่งเศส และไม่ได้มีภารกิจใดๆ มอบหมายให้ตนมาทำเป็นพิเศษ แต่ในส่วนของเรื่องทางคดียังคงต้องเดินหน้าทำตามความตั้งใจของ น.ส.จตุพร เหมือนเดิมต่อไป ส่วนเรื่องระยะเวลาในการสรุปสำนวนคดี อย่างที่ทราบกันดีว่ามีรายละเอียดค่อนข้างมาก ทางตำรวจจึงยังไม่ได้บอกว่าจะสรุปสำนวนส่งฟ้องต่ออัยการเมื่อใด

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า กรณีที่ทาง ปปง. ตามอายัดทรัพย์สินของนายษิทรา หรือทนายตั้ม ได้เพียง 71 ล้านบาท ซึ่งน้อยกว่าจำนวนเงินที่ น.ส.จตุพร ได้รับความเสียหายจะเป็นกังวลหรือไม่ นายสมชาติ ตอบว่า แน่นอนว่ายอดเงินที่ น.ส.จตุพร เสียไปมีมากกว่า 120 ล้านบาท หักลบกับจำนวนทรัพย์ที่ยึดมาได้คงไม่พอ แต่ก็ไม่ได้หนักใจ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ในการตามสืบทรัพย์ต่อไป แต่หากเจอเพียงเท่านั้นก็คงต้องยอมรับ