เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ที่สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง 4 (พระนครใต้) นายธนาตรัยฉัตร ภูโชคอนันต์ หรือ เชน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด อดีตนักร้องชื่อดัง อายุ 37 ปี ผู้ต้องหา ความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงบริษัทไทยยินตัน ความเสียหายกว่า 79 ล้านบาท เดินทางมาเพื่อฟังคำสั่งฟ้องหลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ยื่นขอเลื่อนไป
โดย “เชน ธนา” เดินทางมาด้วยรถยนต์ส่วนตัวเพียงคนเดียว ขณะที่ น.ส.กาลย์กัลยา ภูโชคอนันต์ ภรรยา ไม่ได้เดินทางมาด้วย เนื่องจากมีอาการป่วยกะทันหันจนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า วันนี้ตนไม่ได้เครียดอะไร ภรรยาไม่ได้เดินทางมาเพราะป่วยเข้าโรงพยาบาล ซึ่งตนมาทำตามขั้นตอนกฎหมาย แต่ที่ผ่านมาตนไปร้องเรียนที่กองปราบปรามและอัยการ เพื่อขอชี้แจงข้อมูลทางฝั่งของตนบ้าง แต่กลับไม่ได้รับการสอบสวนแต่อย่างใด ยืนยันว่าตนพร้อมทำตามสิทธิของประชาชนคนหนึ่งอย่างเต็มที่จนนาทีสุดท้าย และเชื่อในความยุติธรรมของศาล

สำหรับคดีดังกล่าว พนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ยื่นคำร้องพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องในคดีที่มีการกล่าวหา บริษัท อมาโด้ กรุ๊ป จำกัด โดย นายธนาตรัยฉัตร ในฐานะกรรมการผู้มีอำนาจ, นายธนาตรัยฉัตร และ น.ส.กาลย์กัลยา ภูโชคอนันต์ ผู้ต้องหาที่ 1-3 ในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกงบริษัทไทยยินตัน ความเสียหายกว่า 79 ล้านบาท
ภายหลัง “เชน ธนา” ได้ฟังคำสั่งของอัยการแล้วออกมาเผยกับสื่อว่า ตนใช้สิทธิของประชาชนคนไทยมาตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา และพยายามตั้งคำถามว่า ข้อหา “ฉ้อโกง” ตนและบริษัทฉ้อโกงในรายละเอียดเรื่องอะไร จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่ทราบในรายละเอียด ที่ผ่านมาตนได้พยายามขอความเป็นธรรมมาที่สำนักอัยการพิเศษ ฝ่ายคดีศาลแขวง 4 ต่ออัยการสูงสุด สำนักงานอัยการสูงสุด ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ขอให้มีการสอบสวนตนเพิ่มเติม เพราะตนมีความมั่นใจว่า ไม่ได้มีเจตนาจะฉ้อโกง สินค้าก็ไม่ได้ขาย แม้จะยอมขายขาดทุน ตนก็ไม่เคยทำ ซึ่งมันเป็นเพียงการบริหารตามขั้นตอนของบริษัทเมื่อสินค้าหมดอายุ ก็จะตีราคาตามอายุต่ำกว่ากึ่งหนึ่ง แต่ทั้งหมดก็เป็นเพียงการคาดเดา เพราะตนยังไม่ได้รับการติดต่อเพื่อให้ไปชี้แจงหรือสอบถามเพิ่มเติมเลย

วันนี้ยินดีที่จะเดินทางมาตามขั้นตอน ซึ่งก่อนหน้านี้ตนได้เดินทางไปร้องต่ออัยการสูงสุด ก็ยังไม่ได้รับการตอบรับกลับมา แม้แต่การให้สืบสวนเพิ่มเติม แต่ความเข้าใจของตน ไม่ว่าจะมีอัยการสูงสุด กองอัยการหรืออัยการฝ่าย หรืออัยการเจ้าของคดี ก็น่าจะมีการเรียกสอบตนเพิ่มบ้าง จนกระทั่งวันนี้ที่ได้รับการสั่งฟ้อง ตนเองก็เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของศาล
ส่วนก่อนหน้านี้ ได้มีการพูดคุยกับทางฝั่งคู่กรณีบ้างหรือไม่นั้น ตนยังไม่ได้พูดคุยเลย เนื่องจากวันนี้เรามาในฐานะบริษัท จึงมองว่าเป็นเรื่องของสินค้าไม่ตรงกับสัญญา ตามที่ก่อนหน้านี้ ตอนปี พ.ศ. 2564 ที่มีปัญหาเรื่องต้นทุนการซื้อคืน ก็ได้ชำระหนี้ไปส่วนใหญ่แล้ว ดังนั้น วันนี้ทางคู่กรณีจะมีเพียงผู้ค้าปกติ ไม่มีผู้เสียหาย ยอมรับว่า เรื่องที่เกิดขึ้นมันส่งผลกระทบต่อบริษัทและการขายสินค้า ซึ่งไม่สามารถประเมินค่าความเสียหายได้ แต่ก็เข้าใจทุกอย่าง ซึ่งให้มันเป็นไปตามขั้นตอน ตนเองก็แสดงความบริสุทธิ์ใจ ด้วยการลดการออกหน้าจอทีวี แต่ในโซเชียล ตนก็ไปฝึกไลฟ์ เพราะว่าตนเองมีพนักงานที่ร่วมรับผิดชอบกว่า 100 ชีวิต ซึ่งก็เข้าใจทางฝั่งของคู่กรณี ที่ได้รับความเสียหาย ตนก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน ในฐานะเจ้าของบริษัทก็ต้องประคองธุรกิจให้อยู่รอด

ทั้งนี้ ส่วนอาการของภรรยา โดยปกติแล้ว ทางครอบครัวก็มีภาวะวิตกตั้งแต่เกิดเรื่อง ซึ่งก็ได้รับบทเรียนในหลายๆ เรื่อง โดยเฉพาะเรื่องของการบริหาร ตนก็ต้องประคองร่างกายมาโดยตลอด จะเห็นได้จากเสียงที่ยังไม่ปกติ ขณะที่ภรรยามีความเครียดมาก ประกอบกับภูมิของร่างกายตก เมื่อเช้าอาเจียนไปคล้ายกับอาหารเป็นพิษ จึงจำเป็นต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล เบื้องต้นตามใบรับรองแพทย์ เป็นระยะเวลา 3 คืน แต่ตัวเองก็มีความตั้งใจที่จะเดินทางมาในวันนี้ ยืนยันไม่มีเจตนาหลบหนี ต้องการจะมาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ วันนี้ตนก็นำใบรับรองแพทย์ของภรรยามายื่นต่ออัยการด้วย แต่ยังไม่ทราบในรายละเอียดว่าจะพิจารณาอย่างไร ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของศาล ส่วนเรื่องของหลักทรัพย์ในการประกันตัว มีการเตรียมมาบ้างแต่ไม่ขอระบุว่า เป็นโฉนดที่ดินทรัพย์สิน หรือเงินสด.