เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.67 พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม เป็นประธานการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ การพัฒนาการจัดการศึกษาผู้ต้องขังในเรือนจำต้นแบบการศึกษา โดยมี นายนิยม เติมศรีสุข ผู้ช่วยรมว.ยุติธรรม นางจิรภา สินธุนาวา รองปลัดกระทรวงยุติธรรม นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ คณะผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วม ณ โรงแรมแกรนด์ริชมอนด์ นนทบุรี
รมว.ยุติธรรม กล่าวว่าหากจะวัดความเจริญรุ่งเรืองของประเทศให้วัดที่คุณภาพของคน ไม่ใช่วัดที่ความใหญ่ของประเทศ คุณภาพของคนเป็นเรื่องความมั่นคงที่แท้จริง เราดูคุณภาพของคนจากการศึกษา เพราะการศึกษาคือการเปลี่ยนแปลงมนุษย์ และเปลี่ยนสิ่งต่าง ๆ ให้ดีขึ้น การศึกษาของผู้ต้องขังเองก็เช่นกัน ในครั้งนี้ถือเป็นวาระที่ดีที่เราจะเติมคนที่มีคุณภาพให้กับสังคมและประเทศชาติ และจะต้องมีสิ่งที่ยืนยืนได้ว่า เมื่อปล่อยผู้ต้องขังออกไปแล้วมีคุณภาพ มีการศึกษา มีโอกาสในการใช้ชีวิตในสังคม

ตามกฎหมายราชทัณฑ์ เรือนจำต้องให้ผู้ต้องขังได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐาน คือ วุฒิ ม.6 หรือ ปวช. และต้องทำหลักสูตรให้สอดคล้องกับกระทรวงศึกษา และบังคับให้ต้องฝึกอบรมด้านคุณธรรม จริยธรรมด้วย ตนอยากเป็นผู้ให้ และเป็นผู้ให้ที่ไม่ได้หวังผลตอบแทน และไม่ได้ให้แก่พวกท่านอย่างเดียว แต่อยากให้กับสังคมด้วย อยากให้คนมีคุณภาพ โครงการนี้เป็นสิ่งที่ล้ำค่าและมีประโยชน์ หวังว่าการพัฒนาการศึกษาในเรือนจำต้นแบบจะสำเร็จไปด้วยดี และเป็นของขวัญให้ประเทศไทยต่อไป
โดยในปีงบประมาณ 2568 อธิบดีกรมราชทัณฑ์ได้กำหนดนโยบาย 8 มิติยกกำลังสองขึ้น โดยมิติที่ 5 ว่าด้วยการพัฒนาและต่อยอดการศึกษา การฝึกวิชาชีพ ที่สอดคล้องกับตลาดแรงงาน ซึ่งเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากปีงบประมาณ 2567 ซึ่งเป็นการพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาทางเลือก ให้มีความเหมาะสมกับบริบทของแต่ละเรือนจำ เนื่องจากปัจจุบันรูปแบบการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานของผู้ต้องขัง จะมีกำหนดระยะเวลาการรับสมัครและระยะเวลาการเรียน เป็นไปตามที่หน่วยงานการศึกษากำหนด จึงไม่มีความยืดหยุ่น และไม่สอดคล้องกับกิจวัตรประจำวันของผู้ต้องขัง เพื่อขับเคลื่อนตามนโยบายด้านการจัดการศึกษา
กรมราชทัณฑ์จึงได้ร่วมกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา มีเป้าหมายคือสนับสนุนผู้ที่พลาดโอกาสทางการศึกษา พัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาผู้ต้องขัง ตลอดจนพัฒนาคุณภาพประสิทธิภาพครูผู้สอน โดยได้กำหนดให้เรือนจำ 13 แห่ง จากภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วประเทศ เป็นเรือนจำต้นแบบการศึกษา ได้แก่ 1) เรือนจำกลาพระนครศรีอยุธยา 2) เรือนจำกลางเชียงราย 3) เรือนจำกลางอุดรธานี 4) เรือนจำจังหวัดศรีสะเกษ 5) ทัณฑสถานหญิงนครราชสีมา 6) ทัณฑสถานวัยหนุ่มกลาง 7) เรือนจำจังหวัดนราธิวาส 8) เรือนจำกลางปัตตานี 9) เรือนจำกลางยะลา 10) เรือนจำอำเภอเบตง 11) เรือนจำกลาง เขาบิน 12) ทัณฑสถานหญิงชลบุรี และ 13) เรือนจำอำเภอสีคิ้ว

การสัมมนาเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อระดมความคิดเห็นในการจัดทำรูปแบบการจัดการศึกษาที่เหมาะสม และสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการจัดการศึกษาให้แก่ผู้ต้องขัง ซึ่งผู้เข้าสัมมนาเชิงปฏิบัติการ ประกอบด้วย ผู้บัญชาการเรือนจำ ผู้อำนวยการทัณฑสถาน ผู้อำนวยการส่วนพัฒนาผู้ต้องขัง และหัวหน้าฝ่ายการศึกษา จากเรือนจำต้นแบบทั้ง 13 แห่ง โดยได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านการศึกษาจากภาคส่วนต่าง ๆ เป็นวิทยากร ได้แก่ รองศาสตราจารย์ ดร.วีระเทพ ปทุมเจริญวัฒนา หัวหน้าภาควิชาการศึกษาตลอดชีวิตและประธานสาขาวิชาการศึกษานอกระบบโรงเรียน คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ดร.เนตรดาว ยั่งยุบล คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี นายศุภชัย ไตรไทยธีระ มูลนิธิปัญญากัลป์ รวมถึงคณะวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิทั้งจากภายในและภายนอกกระทรวงยุติธรรม