ว่ากันด้วยเรื่อง “ไข่” เคยสงสัยกันหรือไม่ว่า ระหว่างการนำ “ไข่เย็น” กับ “ไข่อุณหภูมิห้อง” มาปรุงอาหารจะมีผลต่อรสชาติและคุณภาพมากน้อยเพียงใด
หลายคนอาจไม่เคยรู้เลย และเข้าใจว่า ไม่ว่า “ไข่” จะเย็นหรืออุณหภูมิปกติ ก็ประกอบอาหารได้เหมือนกัน
ใช่แล้ว! ไม่ผิดที่จะคิดแบบนั้น แต่แท้จริงแล้ว มีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดเมื่อนำมาปรุงอาหาร ไปดูกันว่ามี “ข้อดี-ข้อเสีย” อย่างไรบ้าง
ไข่เย็นจากตู้เย็น
ข้อดี
- แยกไข่ขาวและไข่แดงได้ง่ายขึ้น เนื่องจากไข่ขาวจะจับตัวเป็นก้อนชัดเจน
- ช่วยให้ไข่ขาวขึ้นฟูได้ดีขึ้น เหมาะสำหรับการทำขนมที่ต้องการเนื้อสัมผัสฟูเบา
ข้อเสีย
- ใช้เวลานานในการปรุงอาหาร เนื่องจากไข่เย็นจะใช้เวลาในการปรับอุณหภูมิให้เท่ากับอุณหภูมิของการปรุงอาหารนานกว่า
- ไข่ขาวอาจแข็งตัวเร็วกว่าไข่แดง ทำให้ได้ไข่ที่สุกไม่เท่ากัน
- ไข่ดาวอาจมีขอบขาวแข็ง หรือไข่คนอาจมีลักษณะเป็นก้อน
ไข่อุณหภูมิห้อง
ข้อดี
- ปรุงอาหารได้เร็วขึ้น เนื่องจากไข่มีอุณหภูมิใกล้เคียงกับอุณหภูมิในการปรุงอาหาร
- ไข่สุกทั่วถึงกัน ทำให้ได้อาหารที่มีลักษณะสวยงามและน่ารับประทาน
- ไข่คนจะมีลักษณะเนียนนุ่ม ไข่ดาวจะมีขอบที่เหลืองสวย
ข้อเสีย
- แยกไข่ขาวและไข่แดงได้ยากขึ้น เนื่องจากไข่ขาวจะเหลวและไหลง่าย
- ไข่ขาวอาจขึ้นฟูได้ไม่ดีเท่าไข่เย็น
จาก “ข้อดี-ข้อเสีย” ของไข่ 2 แบบนั้น ก็พอจะสรุปได้ว่า การใช้ไข่ในการปรุงอาหารก็ขึ้นอยู่ว่าเราจะทำอาหารแบบไหนกัน อย่างเช่น ทำขนมอบ ก็ควรใช้ไข่เย็น เพื่อให้ไข่ขาวขึ้นฟูได้ดี หรือการทำไข่คนหรือไข่ดาว ควรใช้ไข่อุณหภูมิห้อง เพื่อให้ไข่สุกทั่วถึงและมีลักษณะสวยงาม นอกจากนี้ การทำอาหารอื่นๆ ก็ขึ้นอยู่กับสูตรอาหารและความชอบส่วนตัวของแต่ละบุคคล และแน่นอน ไม่ว่าจะปรุงเมนูไหน “ไข่” ก็มีล้วนมีประโยชน์ด้วยกันทั้งสิ้น.