สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 18 ธ.ค. ว่านับตั้งแต่ปี 2564 เกิดเหตุการณ์ยิงในโรงเรียน ซึ่งมีเหยื่ออย่างน้อย 1 ราย มากกว่า 50 ครั้ง อีกทั้งเหยื่อและผู้ต้องสงสัยไม่ใช่ผู้เยาว์ในหลายกรณี
ระหว่างปี 2553-2562 ตัวเลขผู้เสียชีวิตในแต่ละปีอยู่ที่ไม่เกิน 30 ราย
การเพิ่มขึ้นของการใช้ปืนในโรงเรียนได้กลับมาเป็นประเด็นร้อนอีกครั้ง หลังนักเรียนวัย 15 ปีคนหนึ่ง เปิดฉากยิงในโรงเรียนคริสเตียนแห่งหนึ่ง ในเมืองเมดิสัน ของรัฐวิสคอนซิน เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย หนึ่งในนั้นคือมือปืน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 6 คน
การกราดยิงในโรงเรียนคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 1% ของสาเหตุการเสียชีวิตจากอาวุธปืนทั้งหมด ของเด็กในสหรัฐ
Gun violence at US schools has risen since the pandemic https://t.co/ZpLRGKDG26
— The Straits Times (@straits_times) December 18, 2024
ขณะที่โรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาประมาณ 130,000 แห่งทั่วประเทศ มีรายงานเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับอาวุธปืนในแต่ละปี อย่างไรก็ดี เหตุการณ์เหล่านี้มีแนวโน้มจะเกิดขึ้นมากกว่า ในพื้นที่นอกอาณาเขตโรงเรียน
นายเดวิด รีดแมน ผู้ก่อตั้งฐานข้อมูลการยิงในโรงเรียน ระบุว่า ไม่มีคำอธิบายที่ชัดเจนสำหรับความรุนแรงที่เพิ่มขึ้น แต่ผู้เขียนรายงานเชื่อว่า อาจเป็นผลมาจากยอดขายอาวุธปืน ซึ่งเพิ่มขึ้นในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา การมีปืนอย่างแพร่หลายในบ้านที่เด็ก ๆ อาศัยอยู่ และจำนวนผู้ที่พกปืนมาโรงเรียนมากขึ้น
การวิเคราะห์ล่าสุดของสภาความยุติธรรมทางอาญาแห่งสหรัฐ ระบุว่า ในปี 2563 ปืนกลายเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี แม้อาชญากรรมของเยาวชนโดยรวมจะลดลง ระหว่างปี 2559-2565 แต่จำนวนการฆาตกรรมที่กระทำโดยเยาวชนกลับเพิ่มขึ้นถึง 65% และการใช้ปืนก็เพิ่มขึ้น 21% ในช่วงเวลาเดียวกัน.
เครดิตภาพ : AFP