วานนี (17 ธ.ค. 2567) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ไบรอัน นิโคล ซีอีโอคนใหม่ของบริษัทเจ้าของแฟรนไชส์ร้านกาแฟระดับโลก “สตาร์บัคส์” ประกาศนโยบายใหม่เมื่อวันจันทร์ที่ 16 ธ.ค. 2567 ว่า นับจากนี้ไป พนักงานประจำสาขาในสหรัฐ ที่เป็นผู้ให้กำเนิดบุตร จะได้รับวันลาพักร้อนสูงสุด 18 สัปดาห์ โดยได้รับเงินเดือนเต็มจำนวน และพ่อแม่ที่ไม่ได้เป็นผู้ให้กำเนิดบุตร รวมถึงผู้ที่รับบุตรบุญธรรม จะได้รับวันลาพักเพื่อการนี้เป็นจำนวน 12 สัปดาห์ โดยได้รับเงินเดือนเต็มจำนวน
บริษัทระบุว่า นโยบายใหม่นี้จะเพิ่มจำนวนวันลาพักร้อนสำหรับพนักงานของบริษัทในสหรัฐอเมริกาเป็นสองเท่าจากจำนวนวันลาเดิม ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือน มี.ค. 2568
บริษัทระบุในแถลงการณ์ว่า “ไม่มีร้านค้าปลีกแห่งใดให้สิทธิประโยชน์วันลาสำหรับพ่อแม่มือใหม่ได้ดีไปกว่านี้อีกแล้ว สิทธิประโยชน์ของเรานั้น ดีที่สุดอยู่แล้วในกลุ่มร้านค้าปลีก แต่หลังจากที่ได้ยินจากผู้ร่วมงานบางราย ที่แบ่งปันความเห็นเกี่ยวกับสิทธิลาพักในฐานะพ่อแม่มือใหม่ว่ายังไม่เพียงพอ เราจึงทบทวนข้อกำหนดนี้ และตัดสินใจว่าจะปรับเปลี่ยนเสียใหม่”
ตามการวิเคราะห์ล่าสุดจากเว็บไซต์ Great Place to Work ชี้ว่า จำนวนเฉลี่ยของการลาคลอดสำหรับคนเป็นแม่ในสหรัฐ คือ 10 สัปดาห์ และจำนวนวันลาเพื่อดูแลบุตรโดยเฉลี่ยคือ 1 สัปดาห์ แต่ก็ขึ้นอยู่กับสถานที่ทำงานของแต่ละคน
ผลจากการจากวิเคราะห์ของเว็บไซต์ระบุว่า มีพนักงานบริษัทในสหรัฐ เพียง 27% เท่านั้น ที่มีสิทธิลางานสำหรับคุณแม่มือใหม่
ส่วนพระราชบัญญัติการลาเพื่อครอบครัวและการแพทย์ (FMLA) ระบุว่า พนักงานจะมีสิทธิลาคลอดก็ต่อเมื่อทำงานครบ 1,250 ชั่วโมงในบริษัทขนาดใหญ่ ซึ่งจะกำหนดให้พนักงานสามารถลางานเพื่อเลี้ยงดูบุตรโดยไม่ได้รับค่าจ้างได้สูงสุดเป็นเวลา 12 สัปดาห์
ที่มา : ktvh.com, independent.co.uk
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES