เป็นที่รู้กันว่า หน้าที่ของ “รถแนวคิด” (Concept Car) หรือ “รถต้นแบบ” (Prototype) นั้นส่วนหนึ่งมีขึ้นเพื่อเช็คเสียงตอบรับจากมหาชนว่าเป็นไปในทางบวก หรือลบ และเก็บนำเอาข้อติชมที่ได้ ไปปรับปรุงก่อนที่จะเปิดตัวรถจริงในเวลาต่อไป และหน้าที่ของ รถแนวคิด “จากัวร์ ไทพ์ 00” ก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกัน

อะไรคือสาเหตุที่ทำให้ จากัวร์ เลือกที่จะฉีกแนวจากภาพลักษณ์อนุรักษ์นิยมที่เคยเป็น ทั้งด้านการสื่อสารประชาสัมพันธ์จากเดิมที่เน้นไปที่กลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ใหญ่ ผู้บริหาร แต่หันกลับมาโฟกัสที่เหล่า LGBTQ และเหล่าคนที่ทำงานด้านความคิดสร้างสรรค์ ส่วนด้านงานออกแบบจากที่เคยเป็นรถที่มีรูปลักษณ์โค้งมน ปราดเปรียว ที่สืบถอด DNA มาจากยุคหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ตั้งแต่ยุคของรถในตระกูล XK120 และรถในตำนานอย่างรุ่น อีไทพ์ (E-Type) ก็ได้พลิกผันมาสู่รถที่มีความเป็นเหลี่ยมสัน ที่เน้นเส้นสายที่คมกริบ อย่างผ่าเหล่าผ่ากอ สิ่งนี้ก็คงต้องย้อนกลับไปที่ โจทย์หลัก ที่ทีมงานออกแบบได้รับนั่นเอง

ในปัจจุบันนี้บริษัทจากัวร์ อยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง เพราะรถของพวกเขาในปัจจุบันนั้นไม่มีโมเดลที่ขายดี กลุ่มลูกค้าที่เคยเป็นแฟนคลับที่เหนียวแน่นนั้น เริ่มลดน้อยลงทุกที พวกเขารู้สึกว่าหากจะต้องการอยู่รอด ก็จะต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง พวกเขาจึงตัดสินใจหยุดสายพานการผลิตรถในปัจจุบัน และทยอยขายรถในสต็อคไปให้หมด และใช้เวลาในช่วงนี้ทำการปรับปรุงสายพานการผลิตใหม่ทั้งหมด โดยวางเดิมพันไว้ที่ “รถยนต์ไฟฟ้า”

ใช่แล้ว จากัวร์ เลือกที่ก้าวไปสู่อนาคตด้วยรถยนต์ไฟฟ้า ไม่ใช่ว่าพวกเขาไม่เคยทำรถยนต์ไฟฟ้า พวกเขาเคยทำมันมาแล้ว นั่นก็คือ รถรุ่น ไอ-เพซ (i-Pace) ซึ่งก็ถือว่ามีสมรรถนะดีใช้ได้ในยุคของมัน แต่มันก็ไม่ได้สร้างอิมแพ็คมากพอ ดังนั้นการเกิดขึ้นของ ไทพ์ 00 ก็คือ สิ่งที่พวกเขาวางเดิมพันไว้เลยว่า จะต้องดึงให้ทุกคนหันมามองที่พวกเขาให้จงได้!

และพวกเขาก็ทำสำเร็จ พวกเขาทำการรีแบรนดิ้ง ทั้งการออกแบบโลโก้ใหม่หมด และรูปทรงของตัวรถสไตล์คูเป้ขนาดใหญ่ ที่มีรูปทรงในสไตล์คลาสสิคหน้ายาว ท้ายลาด แต่ใช้เส้นสายที่มีเหลี่ยมสัน ดุดัน จนคนอาจจะคิดว่านี่เป็นรถของเล่นฮอตวีลส์ (Hotwheels) ขยายร่าง แถมยังมาพร้อมรายละเอียดที่คนส่วนใหญ่ส่ายหน้า โดยเฉพาะมุมมองด้านหน้าและด้านท้าย เพราะมันทำให้นึกไปถึงแอร์แบบวินโดว์ไทฟ์ (Window Type) ที่ดูโบราณ ส่วนห้องโดยสารนั้น เน้นความเรียบเกลี้ยง และสร้างขึ้นมาจากวัสดุที่แปลกไปจากที่เราคุ้นเคย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ หินทราเวอร์ทีน (Travertine stone) ผสมผสานกับ โลหะทองเหลือง (Brass) ส่วนวัสดุหุ้มเบาะนั้นแทนที่จะเป็นหนังแท้ดังที่แฟนคลับจากัวร์หลงไหล ก็หันไปให้เส้นใยผ้าแทน โดยรวมๆแล้วห้องโดยสารให้ความรู้สึกเหมือนห้องพักโรงแรมหรูมากกว่า รถยนต์

เรียกได้ว่า การเปิดตัวนั้น เรียกกระแสตอบรับที่เป็นลบ จากแฟนคลับจากัวร์ และคนรักรถทั่วโลก แต่ก็ไม่แน่ว่า อาจจะโดนใจกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มองหาสไตล์ที่แตกต่าง แต่ที่แน่ๆก็คือ มันยังต้องใช้เวลาอีกเป็นปี กว่าจะมีการผลิตเวอร์ชั่นรถจริงออกมา กว่าจะถึงเวลานั้นมันจะต้องได้รับการปรับปรุงอีกมาก แล้วเรามาดูอีกทีว่า มันจะเอาชนะใจกลุ่มเป้าหมาย และทำให้ จากัวร์ กลับมามีกำไรได้อีกครั้งหรือไม่!

โดย : ภัทรกิติ์ โกมลกิติ