เมื่อวันที่ 17 ธ.ค.67 ร.ต.อ.สมศักดิ์ แย้มทิพย์ รอง สว.(ป.) ส.ทล.6 กก.2 บก.ทล. พร้อมกำลังตำรวจทางหลวง 5 นาย ไล่ล่าจับแก๊งค้ามนุษย์ ที่ ขนแรงงานต่างด้าว ทำงานผิดกฎหมาย บริเวณถนนหมายเลข 340 สุพรรณบุรีขาเข้ากรุงเทพ ระหว่าง กม.88-90 หลบหนีการตรวจค้นประมาณ 2 กิโลเมตร ก่อนโดนรวบ ตรวจค้นรถตู้ต้องสงสัย คันดังกล่าว พบคนขับรถตู้ชาวไทยเตรียมคนต่างด้าวเข้ากรุงเทพฯ

จากการเปิดเผยของตำรวจชุดจับกุม ทราบว่า ได้ออกตรวจพื้นที่บริเวณที่รับผิดชอบตามปกติ ระหว่างนั้นพบรถตู้รถยนต์ตู้โตโยต้า สีขาว ทะเบียน 1นฉ 7681 กรุงเทพมหานคร มีลักษณะรถบรรทุกสิ่งของหนัก และมีอาการคล้ายเหมือนรถจะเสีย ด้วยความเป็นห่วงจึงได้เข้าไปสอบถาม เพื่อช่วยเหลือ แต่คนขับรถตู้คันดังกล่าวกลับเร่งเครื่องหนี จึงวิทยุเพื่อสกัดจับจากจุดที่พบเจอ ห่างกันประมาณ 2 กิโลเมตร โดยรถตู้ได้จอดเสียอยู่ข้างทาง จึงได้ขอตรวจค้น พบ นายสุชาติ ชาว จ.ตาก เป็นคนขับ ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายในตัว ระหว่างนั้นตำรวจได้สังเกตเห็นผู้โดยสารที่อยู่ในรถ เป็นชาย 2 ราย หญิง 6 ราย ท่าทีมีพิรุธ จึงได้ขอดูบัตรประจำตัวประชาชน แต่ทั้งหมดไม่มีเอกสารยืนยันตัวตน ทราบต่อมาภายหลังว่า เป็นต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติเมียนมา จึงได้ทำการจับกุม

นายสุชาติ รับสารภาพว่า วันที่ 16 ธ.ค.67 เวลาประมาณ 19.00 น. ได้ขับรถตู้คันดังกล่าวไปรับบุคคลต่างด้าวที่บริเวณ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีนายจอห์น ชายสัญชาติไทย ไม่ทราบชื่อสกุลจริง ติดต่อให้ไปรับ และจะเดินทางไปส่งปลายทางที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี โดยมี น.ส.แก้ว หญิงสัญชาติไทย มารอรับบุคคลต่างด้าวอีกทอดหนึ่ง โดยได้ติดต่อผ่านทางโทรศัพท์ แต่มาถูกจับกุมที่ อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี เสียก่อน นายสุชาติจึงพูดติดตลกว่า ถ้ารถไม่เสียตำรวจทางหลวงจับไม่ได้แน่นอน โดยการลักลอบขนย้ายบุคคลต่างด้าวในครั้งนี้ มีรถที่ใช้ขนย้ายแรงงานต่างด้าว 1 คัน กระทั่งถูกจับกุม นายสุชาติ ยอมรับว่าได้ลักลอบขนย้ายแรงงานต่างด้าวครั้งนี้เป็นครั้งที่ 6 ได้ค่าตอบแทนเป็นเงินจำนวน 40,000 บาท โดยรับค่าจ้างจากนายจอร์น ผู้จ้างวาน

จากการสอบถาม เพิ่มเติมจากผู้ต้องหาแรงงานต่างด้าวทราบว่าทั้งหมด ได้เดินทางมาจาก เมืองพะอาน ประเทศเมียนมา เข้ามาทางช่องทางธรรมชาติ จนมาถึงจ.ตาก จากนั้นจะมีรถยนต์กระบะมารับที่บริเวณป่ารกชัฎ เพื่อเดินทางต่อไป โดยจะมีการเปลี่ยนรถยนต์รับส่งเป็นช่วงๆ โดยปลายทางมุ่งหน้าเขตปริมณฑล และกทม. ซึ่งบุคคลต่างด้าวทั้งหมด มีการติดต่อกับนายหน้าฝั่งประเทศไทยและประเทศเมียนมาหลายคน โดยต้องจ่ายเงินเป็นค่าการเดินทางเข้ามาในประเทศไทย คนละ 13,000 – 15,000 บาท ซึ่งได้จ่ายเงินให้นายหน้าชาวเมียนมาเป็นผู้รวบรวมเงินจากฝั่งประเทศเมียนมาก่อนออกเดินทางหลบหนีเข้าประเทศไทย

เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม จึงแจ้งให้ทุกคนทราบว่า การกระทำดังกล่าวมีความผิด จะต้องถูกจับกุมโดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า นายสุชาติคนขับรถตู้ ในข้อหา ช่วยเหลือซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวที่หลบหนีเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยผิดกฎหมาย” ส่วนแรงงานต่างด้าวทั้ง8คน ในข้อหา กระทำความผิดฐานเป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต และได้ควบคุมตัวทั้งหมดมาทำบันทึกจับกุม และได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมด้วยของกลาง ส่งพงส.สภ.ศรีประจันต์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.