เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เปิดเผยความคืบหน้า ภายหลังมีการประชุมเพื่อแก้ปัญหาช้างป่าในพื้นที่อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จ.เลย จากกรณีช้างป่าออกมาทำร้ายนักท่องเที่ยวจนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา และได้สั่งปิดการท่องเที่ยวอุทยานฯ ภูกระดึงเมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2567 เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ว่า จากการประชุมแนวทางดังกล่าว จะมีการซักซ้อมรับมือนักท่องเที่ยวในวันที่ 21-22 ธ.ค.นี้ เพื่อที่จะเปิดรับการท่องเที่ยวที่อุทยานฯ ภูกระดึง ในวันที่ 23 ธ.ค. นี้

นายอรรถพล กล่าวว่า โดยเรามีกฎขึ้นมาสำหรับนักท่องเที่ยว จะมีการลงทะเบียนตามระเบียบ และเข้า Line OpenChat เพื่อให้นักท่องเที่ยวรับทราบข้อปฏิบัติตนอย่างถูกต้อง รวมทั้งแจ้งเหตุเตือนภัย หรือช้างป่า ได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้เราจะบังคับให้นักท่องเที่ยวจ่ายเงินประกัน 10 บาท วงเงิน 3 แสนบาทกรณีเกิดเหตุร้ายขึ้น ส่วนการปฏิบัติตนเมื่อเดินเส้นทางศึกษาธรรมชาติ จะปล่อยให้เดินเป็นกลุ่ม อย่างน้อย 3 คนขึ้นไป เดินได้ตามเส้นทางปกติ หลังแปไปจนถึงผาหล่มสัก แต่ยังมีเส้นทางที่ปิดบริการอยู่ คือ ผานกแอ่น และเส้นทางน้ำตกเพ็ญพบใหม่-เก่า ซึ่งอุทยานฯ ได้จัดเตรียมชุดเคลื่อนที่เร็ว ผลักดันช้าง และเฝ้าระวังทุกพื้นที่ในบริเวณจุดท่องเที่ยวให้ครอบคลุมรัศมี 2 กม.

เมื่อถามว่าบริเวณที่ช้างป่าทำร้ายนักท่องเที่ยว ในอดีตเคยมีสถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นหรือไม่ นายอรรถพล กล่าวว่า ไม่เคยออกมาในลักษณะที่ทำร้ายคนแบบนี้ เคยมีออกมาแวบๆ แล้วก็หลบไป ไม่เคยออกมาทำร้ายนักท่องเที่ยว จากการสำรวจเราพบว่ามีช้างป่าในรัศมีโซนบริการนักท่องเที่ยว ประมาณ 3 ตัว คือ พลายบิด ที่ทำร้ายนักท่องเที่ยว สีดอดำ และพลายงาเดียว พบว่าวนเวียนอยู่รอบกองขยะ ตนจึงสั่งการไม่ให้มีกองขยะ และต่อไปนี้จะไม่มีถังขยะบนภูกระดึง แต่จะมีจุดคัดแยกเฉพาะขยะอาหารหรือขยะอินทรีย์ ดังนั้นนักท่องเที่ยวนำขยะอะไรขึ้นมา ต้องนำกลับลงไปด้วย หรือหากซื้อจากร้านค้าในพื้นที่อุทยานฯ ก็สามารถนำกลับมาฝากทิ้งได้

อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวอีกว่า อยากขอความร่วมมือกับนักท่องเที่ยว ให้งดนำขยะขึ้นมา เพื่อไม่ให้เป็นภาระของเจ้าหน้าที่ และช่วยกันดูแลความสะอาดให้กับสิ่งแวดล้อมด้วย นอกจากนี้ตามผาต่างๆ จะมีการกำหนดจุดถ่ายรูปไว้ให้ ห้ามนักท่องเที่ยวเข้าไปถ่ายในจุดที่อันตราย ทั้งนี้อยากฝากถึงนักท่องเที่ยวให้ปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับของอุทยานฯ อย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเอง.

