สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. ว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าว ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการคว่ำบาตรรอบที่ 15 ของอียู เกี่ยวกับความขัดแย้ง ถือเป็นความพยายามที่เพิ่มขึ้นในการจัดการกับบทบาทสำคัญ ซึ่งกลุ่มกล่าวหาว่า จีนมีส่วนทำให้เครื่องจักรสงครามของรัสเซียเดินหน้าต่อไป
อียูดำเนินการขึ้นบัญชีดำบริษัทจีน 4 แห่ง ฐานจัดหาส่วนประกอบโดรนที่ละเอียดอ่อน และชิ้นส่วนไมโครอิเล็กทรอนิกส์ ให้กับรัสเซีย ขณะที่บริษัทอีก 2 แห่ง และนักธุรกิจหญิงชาวจีน 1 คน ก็ถูกแบล็กลิสต์เช่นกัน เนื่องจากหลีกเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรของอียู ซึ่งมีเป้าหมายหยุดยั้งการส่งอุปกรณ์ต่าง ๆ ไปยังกรุงมอสโก
The European Union has adopted the 15th package of sanctions blacklisting 54 individuals and 30 companies from Russia, China, and North Korea, according to the document published in the EU’s Official Journal:https://t.co/tjrgtQoHWE pic.twitter.com/fCc7HQOmAT
— TASS (@tassagency_en) December 16, 2024
นอกจากนี้ อียูยังเพิ่ม พล.อ.โน กวาง-ชอล รมว.กลาโหมเกาหลีเหนือ และ พล.อ.คิม ยอง-บก รองประธานคณะเสนาธิการทหาร ลงในบัญชีดำการคว่ำบาตรของกลุ่ม หลังรัฐบาลเปียงยาง ส่งทหารไปช่วยเสริมกำลังของกองทัพรัสเซีย
แม้ก่อนหน้านี้ อียูกำหนดเป้าหมายการคว่ำบาตรเป็นบริษัทจีน เนื่องจากการสนับสนุนกองทัพรัสเซีย แต่จนถึงขณะนี้ อียูดำเนินการแบนบริษัทยุโรปที่ทำธุรกิจกับบริษัทจีน แทนการใช้มาตรการคว่ำบาตรที่เข้มงวดยิ่งขึ้นในปัจจุบัน.
เครดิตภาพ : AFP