เมื่อเวลา 08.35 น. วันที่ 17 ธ.ค. 67 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ เตรียมเดินหน้าปราบปรามผู้มีอิทธิพล ว่า เหมือนนายกฯ กลับมาขันนอต แต่ตามจริงแล้ว กระทรวงมหาดไทยปฏิบัติมาตลอดอยู่แล้ว กรณีที่เกิดขึ้นที่ จ.ปราจีนบุรี คือเหตุการณ์เกิดขึ้นในบ้านพัก เป็นการทะเลาะวิวาท และบันดาลโทสะ ใครทำอะไรไปก็ต้องรับผลกรรม แต่ถ้าจะออกไปซ่าข้างนอกไม่เหลือ ทำไม่ได้ 

เมื่อถามอีกว่าต้องยอมรับว่าเขาเป็นบ้านใหญ่ที่นั่น ตำรวจเลยมีการตรวจค้นอยู่ตลอด นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ดี ถือว่าธรรมชาติจัดสรร ถ้าใครทำไม่ดีก็ต้องถูกขยายผลว่าเกี่ยวพันไปถึงใคร ถ้าเป็นเรื่องผู้มีอิทธิพล เรื่องปืน เรื่องข่มขู่ ก็ต้องเข้าไปจัดการ ใครจะไปช่วย ไม่เห็นมีใครช่วยเลย บางทีกฎหมายก็จัดการ บางทีธรรมชาติก็เข้าไปจัดการ คนที่ได้ประโยชน์คือประชาชนและประเทศชาติ 

เมื่อถามอีกว่าก่อนหน้านี้เคยมอบหมายให้ นายชาดา ไทยเศรษฐ์ อดีต รมช.มหาดไทย เป็นผู้ปราบปรามผู้มีอิทธิพล ครั้งนี้จะมอบหมายให้กับ น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ รมช.มหาดไทย เป็นผู้ดูแลหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า รอบนี้เป็นคุณอนุทินแล้วครับ 

เมื่อถามว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะรื้อฟื้นเหมือนในอดีตที่ให้มีการตั้งศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพลและยาเสพติด โดยให้นายกฯ เป็นหัวหน้าชุดเฉพาะกิจ นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าได้นายกฯ มาช่วยอีกแรงยิ่งดีใหญ่เลย เพราะกระทรวงมหาดไทย ก็ใช้กลไกของกระทรวงเอง ถ้ามีนายกฯ มาก็จะมีกลไกตำรวจ กลไกทหาร และกลไกความมั่นคงต่างๆ มาปราบปรามยาเสพติด ก็จะเป็นการบูรณาการที่สมบูรณ์แบบ ทางกระทรวงมหาดไทยใช้บูรณาการในการปกครอง และยินดีถ้าท่านลงมาช่วยอีกแรงได้จริง

เมื่อถามอีกว่า อาจเป็นรูปแบบคณะกรรมการเฉพาะกิจที่มีนายกฯ เป็นประธาน นายอนุทิน กล่าวว่า ก็ยิ่งดี ถ้าได้คนที่มีอำนาจสั่งการสูงสุดเข้ามาก็เป็นประโยชน์ คงไม่มีใครใหญ่กว่านายกฯ

เมื่อถามอีกว่าตอนที่กระทรวงมหาดไทย มีการลิสต์รายชื่อผู้มีอิทธิพล มีรายชื่อของบ้านใหญ่ จ.ปราจีนบุรี อยู่ด้วยหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า คำว่ามีอิทธิพลมีหลายอย่าง การทำให้ชาวบ้านเชื่อถือเคารพศรัทธา ก็ถือว่าเป็นอิทธิพล ถ้าแบบนี้ไม่เป็นไร ทุกคนมีอิทธิพลหมด ขึ้นอยู่กับว่าจะไปทำให้เกิดประโยชน์กับบ้านเมือง หรือทำให้ผู้คนเดือดร้อน เราก็มุ่งไปปราบอิทธิพลที่ทำให้ผู้คนเดือดร้อน ถ้าเขาทะเลาะวิวาทกันเอง บันดาลโทสะกัน ตรงนี้ไม่อยู่ในข่าย แต่ต้องไปดูว่าอาวุธปืนมาจากไหน ต้องไปขยายความ เพราะอาวุธปืนที่ใช้ ดูแล้วคนธรรมดาก็ไม่ได้พกพาอะไรขนาดนั้น ในทางปฏิบัติเจ้าหน้าที่แยกแยะออก ว่าใช้อิทธิพลในการประกอบคุณงามความดี หรือใช้อิทธิพลในการข่มเหงรังแกชาวบ้าน นายอำเภอ ผู้ว่าฯ ตำรวจดูออกอยู่แล้ว ตนเองก็ดูออก