เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) น.ส.ลิลลี่ เหงียน ดารานักแสดงชาวเวียดนาม ได้เดินทางเข้ามาให้ปากคำในคดีกรกนก สุวรรณบุตร หรือแม่ตั๊ก จากกรณีที่เคยไปไลฟ์สดขายของให้แม่ตั๊ก 2 ครั้ง ได้ค่าตอบแทน 150,000 บาท

ลิลลี่ เปิดเผยว่า วันนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเรียกให้ตนมาให้ปากคำในประเด็นการจ้างงานไลฟ์สด โดยตนอยากจะเดินทางมาก่อนหน้านี้ แต่มีผู้ใหญ่แนะนำว่าควรให้ตำรวจเรียกค่อยมา จึงต้องมาวันนี้ ตนรู้จักกับแม่ตั๊กเพราะช่วงนั้นตนออกรายการโหนกระแส และได้รู้จักกันผ่านช่างแต่งหน้าคนหนึ่ง และช่างแต่งหน้าคนนี้แนะนำงานของแม่ตั๊กมาให้

โดยรายละเอียดการทำงาน ตนเคยไลฟ์สดกับแม่ตั๊ก 2 ครั้ง ในวันที่ 16 และ 18 ก.ค. 67 ตอนแรกที่มีการคุยกัน เข้าใจว่าเป็นการจ้างไลฟ์สดครั้งละ 150,000 บาท แต่พอมาถามช่างแต่งหน้าคนดังกล่าว ปรากฏว่าเป็นการจ้างไลฟ์สด 2 ครั้ง ครั้งละ 2 ชม. ในราคา 150,000 บาท

ในการไลฟ์ขายสินค้า ทางแม่ตั๊กได้ให้ไลฟ์ขายสินค้า 3 อย่าง คือ ครีมกันแดด โกโก้ และสบู่ เท่าที่ตนทดลองสินค้าดูก็สรรพคุณตรงตามที่แม่ตั๊กเคลม เลยตัดสินใจมาร่วมไลฟ์สด และในการไลฟ์สดมีสคริปต์ให้ เป็นข้อมูลเกี่ยวกับสรรพคุณของสินค้า แต่ตลอดการไลฟ์สด ตนไม่ได้มีการพูดถึงทองคำ หรือผลิตภัณฑ์ใดๆ เกี่ยวกับทองคำ ไม่มีการโปรโมตและมีการซื้อขาย และไม่มีการหยิบจับสินค้าที่เกี่ยวกับทองคำ ในไลฟ์สดมีเพียงการพูดถึงประเด็นของตนเองในตอนนั้นสลับกับการขายของ การทำงานไม่ได้มีการทำสัญญา ยืนยันไม่ได้เป็นพรีเซ็นเตอร์ และส่วนตัวไม่ได้สนิทสนมกับแม่ตั๊กและสามีของเขา ส่วนซองแดงที่อ้างว่าเป็นการคืนกำไรให้กับลูกค้านั้นมีการใส่เงินจริง แต่ไม่ทราบว่ามีการใส่กล่อง และจัดส่งให้ลูกค้าจริงหรือไม่

เปิดไทม์ไลน์ ‘แม่ตั๊ก’จากเด็กกองขยะ สู่เศรษฐินีพันล้าน จนมุมโดนคดีฉ้อโกง!

นอกจากนี้ ลิลลี่ ยังระบุเพิ่มเติมว่า ตนอยากไปเยี่ยมแม่ตั๊กที่เรือนจำ อยากไปให้กำลังใจ เพราะครั้งหนึ่งก็เคยมีการจ้างงานกัน และมั่นใจว่า “ถ้าเขาออกมา เขาจะไม่ทำอะไรแบบนี้อีกแล้ว”

ส่วนตัวตนไม่ได้กังวลอะไรเพราะตนบริสุทธิ์ แต่แอบกังวลเล็กน้อยเกี่ยวกับเงินค่าจ้าง เพราะตนใช้จนหมดแล้ว ถ้าจะเรียกคืนคงต้องขอเวลาอีกสักหน่อย.