เมื่อเวลา 18.40 น. วันที่ 14 ธ.ค. ร.ต.อ.วิฆเนศ ซื่อตรง รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุผัวเสพยาหลอน คุ้มคลั่งอาละวาด บีบคอและจะใช้เสียมทุบหัวฆ่าเมีย เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 31 หมู่ 7 บ้านบ่อน้ำ ต.หมูม่น อ.เมือง จ.อุดรธานี บ้านของแม่ยาย เบื้องต้นเมียหนีออกมาจากบ้านได้ โดยมีลูกชายเข้าไปช่วยเหลือ แต่แม่ยายที่กำลังป่วยได้หนีขึ้นไปบนชั้นสอง ยังออกมาไม่ได้ จึงนำกำลังสายตรวจ 191 นำไม้ง่าม เจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งมีบ้านอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ รุดไปจุดเกิดเหตุเพื่อให้การช่วยเหลือ

ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้นไม้ครึ่งปูน พบนางลัดดาวัลย์ ท้าวสนิท อายุ 43 ปี ซึ่งถูกสามีชื่อนายผาย คำผาง อายุ 46 ปี อยู่บ้านเลขที่ 31/4 หมู่ 7 บ้านบ่อน้ำ ต.หมูม่น ทำร้าย แต่โชคดีที่ ด.ช.พีช อายุ 12 ปี ลูกชายช่วยออกมาได้ แต่นางสุนัน ท้าวสนิท อายุ 66 ปี แม่ของตนซึ่งป่วยเป็นโรคหัวใจ ความดัน ต้องหลบหนีไปอยู่บนชั้นสองของบ้าน ขังตัวเองไว้ในห้องนอน เจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่เป็นเพื่อนบ้าน ได้เข้าไปช่วยนางสุนันออกมา ส่วนนายผาย ผู้ก่อเหตุได้ปีนหน้าต่างครัวหลบหนีไป บ้านเลขที่ 31/4 ที่มีรั้วติดกัน เป็นบ้านของนายผาย เจ้าหน้าที่จึงนำนางสุนันออกมาจากบ้าน ไปอยู่ในที่ปลอดภัย

นางลัดดาวัลย์ เล่าว่า นายผายเป็นสามี มีลูกด้วยกัน 2 คน แยกออกมาสร้างบ้านอยู่ติดกับบ้านแม่ ส่วนสาเหตุที่สามีคุ้มคลั่งอาละวาด คาดว่าเกิดจากสามีเสพยาบ้า โดยก่อนหน้านี้เดือนกรกฎาคม 2567 นายผายได้เดินทางไปทำงานเกษตร ที่ประเทศอิสราเอล ต่อมาเดือนพฤศจิกายน นายผายได้เดินทางกลับมา คาดว่าจะไปเสพยาบ้าจนเกิดอาการหลอนยา นายจ้างจึงส่งกลับมา เมื่อ 3 วันก่อนตนได้พานายผายไปบำบัดรักษาที่ รพ.อุดรธานี ได้ยากลับมากินที่บ้าน เย็นวันนี้ขณะที่ตนมาดูแลแม่ที่ป่วย นายผายได้ถือมีดและเสียมตามมา นายผายหาว่าตนจะพาคนมาฆ่า จึงเข้ามาบีบคอตนหวังจะฆ่าตนก่อน ตนเลยร้องขอความช่วยเหลือ โชคดีที่ ด.ช.พีช ลูกชายวิ่งเข้ามาช่วย และกัดมือพ่อให้ปล่อยแม่  พอตนหลุดออกมาได้ก็วิ่งออกมาจากบ้านกับลูก ส่วนนายผายและแม่ยังอยู่ในบ้าน เกรงว่าลูกเขยจะทำร้ายแม่ยาย จึงร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน โชคดีที่เพื่อนบ้านที่เป็นพนักงานดับเพลิงเข้าไปช่วยแม่ออกมาและแจ้งตำรวจ

จากนั้นตำรวจได้ไปที่บ้านนายผาย ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียว มีรั้วรอบขอบชิด พบนายผายถือเสียมขังตัวเองอยู่ในบ้าน ตำรวจเจรจาให้ยอมมอบตัวแต่ก็ไม่ได้ผล จึงให้นางลัดดาวัลย์ภรรยาเข้ามาเจรจาให้นายผายวางอาวุธมีดและเสียม แล้วออกมามอบตัว แต่นายผายไม่ยอม เจรจาอยู่ประมาณ 20 นาที ตำรวจจึงตัดสินใจปีนรั้วเข้าไปในบริเวณบ้าน เลื่อนกระจกหน้าต่างเปิดออก หลอกล่อพูดคุย พอเผลอตำรวจใช้ปืนไฟฟ้ายิงใส่ท้องนายผายจนล้มลง ตำรวจได้เข้าควบคุมตัวนายผาย ท่ามกลางความโล่งอกของชาวบ้านที่มายืนมุงดู ตำรวจตรวจค้นห้องนอนพบซองยาที่หมอให้มากินรักษาอาการจิตเวช

จากการสอบถามนายผายว่าทำไมถึงทำร้ายเมีย นายผายซึ่งยังอยู่ในการมึนงงจากการถูกยิงด้วยปืนไฟฟ้า ตอบว่า “เมียเล่นชู้ เพราะได้ยินเสียงเมียพูดคุยกับกอดผู้ชายในห้องน้ำ และตนไม่ได้เสพยาบ้า” ตำรวจจึงควบคุมตัวนายผาย ส่งไปบำบัดรักษาที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อรักษาอาการหลอนคุ้มคลั่งต่อไป