จากกรณี “ทีมข่าวเฉพาะกิจเดลินิวส์ส่วนกลาง” เกาะติดปัญหาโครงการพัฒนาเมืองกาฬสินธุ์ และเขื่อนป้องกันตลิ่งครอบคลุม 3 อำเภอ ประกอบด้วย อ.กมลาไสย อ.ฆ้องชัย และ อ.เมืองกาฬสินธุ์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย ทุ่มงบประมาณกว่า 545 ล้านบาท ให้ จ.กาฬสินธุ์ ใน 8 โครงการใหญ่ เพื่อแก้ไขปัญหอุทกภัย ตั้งแต่ปี 2562 ได้ผู้รับจ้าง 2 หจก.ขาใหญ่ ทำการก่อสร้างแต่ไม่สามารถก่อสร้างเสร็จแม้แต่โครงการเดียว ทำให้ในช่วงเดือน พ.ค.-ส.ค. 2567 กรมโยธาฯ ได้ยกเลิกสัญญาก่อสร้างทุกโครงการ แต่การเอาผิดกับผู้รับจ้างและผู้บริหารสัญญาไม่มีความชัดเจน ทำให้ กมธ.ป.ป.ช. ลงพื้นที่ติดตามปัญหาและได้มีคำสั่งเรียก 5 หน่วยงานใหญ่ ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามกรทุจริตแห่งชาติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง และผู้ว่าราชการจังหวัดกาฬสินธุ์ มาชี้แจงเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ชาวบ้านในชุมชนเมืองกาฬสินธุ์ บริเวณพื้นที่ผู้รับเหมาทิ้งงาน 7 ชั่วโคตร ได้ออกมาร้องขอส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง นำเครื่องจักรมาปรับสภาพพื้นที่ จุดผู้รับเหมา 7 ชั่วโคตรทิ้งงาน เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย เนื่องจากหวั่นเกิดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง โดย นายทรงศักดิ์ คิสารัง รองประธานชุมชนซอยน้ำทิพย์ เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ กล่าวว่า ในวันที่ ดร.ฉลาด ขามช่วง ประธาน กมธ.ป.ป.ช. และคณะ ลงพื้นที่เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. ที่ผ่านมา ตนและพี่น้องประชาชนผู้ได้รับผลกระทบและเดือดร้อน ก็ได้มาต้อนรับและแจ้งปัญหาการก่อสร้างเขื่อนป้องกันติ่งบริเวณซอยน้ำทิพย์ เป็นหนึ่งในโครงการก่อสร้างเพื่อพัฒนาเมืองกาฬสินธุ์ หรือโครงการก่อสร้าง 7 ชั่วโคตร ทำให้ตนและทุกคนรู้สึกดีใจ เหมือนเริ่มเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์บ้างแล้วว่า จะมีการแก้ไขเกิดขึ้นในอีกไม่นาน ซึ่งหากเป็นไปตามที่คาดไว้และโชคเข้าข้างคนกาฬสินธุ์ คงจะได้ผู้รับเหมารายใหม่มาดำเนินการต่อในช่วงต้นปี 2568

แต่การแก้ปัญหาที่ผ่านมา เป็นเหมือนไม่มีหลักประกัน กรมโยธาฯ ปล่อยปัญหาล่วงเลยมาถึงขั้นนี้แล้ว ต้องเป็นรูปเป็นร่าง ทำให้เห็นเป็นรูปธรรมได้แล้ว ไม่ใช่บอกปากเปล่าแค่ว่าจะได้ผู้รับจ้างมาเดือนนั้นเดือนนี้ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องลงมาสร้างความเข้าใจ และให้ความเชื่อมั่นกับพี่น้องประชาชนเป็นระยะๆ ไม่ใช่คอยจับผิดชาวบ้านว่าคอยแต่จะออกมาร้องเรียน ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณ ดร.ฉลาด ขามช่วง และคณะ กมธ.ปปช. ที่เอาใจใส่งบประมาณแผ่นดิน และเป็นห่วงต่อความเดือดร้อนของชาวบ้าน ได้เดินทางมาดูปัญหา เพื่อส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้อง ตามระเบียบของทางราชการต่อไป

“ในส่วนของทางจังหวัดนั้น ตนอยากให้ลงมาดูแลชาวบ้านบ้าง ตั้งแต่เกิดปัญหาผู้รับเหมาทิ้งงาน และหลังจากคณะ กมธ.ป.ป.ช. กลับไป ก็อยากฝากไปถึงท่านผู้ว่าฯ ได้โปรดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น โยธาธิการฯ ป้องกันและบรรเทาสาธารภัยหรือแขวงทางหลวง ที่เขามีเครื่องจักร มาทำการปรับสภาพพื้นที่จุดที่ผู้รับเหมาทิ้งงาน ให้ดูสะอาด เพิ่มความปลอดภัยในการดำเนินชีวิต การใช้รถใช้ถนน และป้องกันอันตรายจากการเกิดอุบัติเหตุด้วย” นายทรงศักดิ์ กล่าว

ด้านนางสุกันยา ฆารพวง ประธาน อสม.ชุมชนซอยน้ำทิพย์ กล่าวว่า เดิมตลิ่งแห่งนี้เคยมีภูมิทัศน์สวยงาม เป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ สวนสุขภาพและถนนคนเดิน แต่ในช่วงหลังๆ ถึงฤดูน้ำหลาก จะประสบปัญหาน้ำล้นตลิ่งเข้ามาถึงบ้านเรือนพี่น้องประชาชน พอมีโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งมาลงพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาท่วม ชาวบ้านทุกคนก็ดีใจ เพราะเชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาน้ำท่วมจนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน แต่พอเห็นการก่อสร้างที่ไม่คืบหน้า ผู้รับเหมาทำงานไม่ต่อเนื่อง สุดท้ายขนย้ายเครื่องจักรหนีไปหมด ตนและชาวบ้านก็ท้อใจ ได้แต่รอคอยว่าเมื่อไหร่ภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง จะจัดหาผู้รับเหมารายใหม่มาทำงานต่อให้เสร็จสักที

ที่ผ่านมาหลังจากผู้รับเหมาทิ้งงานไป เคยมีธรรมาภิบาลจังหวัด เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. รวมถึงอธิบดีกรมโยธาฯ มาดูปัญหานี้ ก็หลงดีใจว่าการแก้ไขคงจะรวดเร็วขึ้น แต่ก็เว้นว่างห่างหายไปหลายเดือน ยังไม่มีหน่วยงานไหนมาแก้ไขปัญหาก่อสร้าง 7 ชั่วโคตรนี้เลย ทุกวันนี้จึงมีแต่ร่องรอยการทิ้งงานที่ไม่น่าดู เห็นแล้วเศร้าใจ มีทั้งเศษหินเศษปูนก่อสร้าง แหล่งน้ำบางแห่งสกปรก หวั่นเกิดแหล่งเพาะพันธุ์ลูกน้ำยุงลาย ริมถนนมีรอยร้าว บางแห่งทรุดตัว และมีเสาเข็มตั้งเรียงราย เสี่ยงรถเสียหลักเกิดอุบัติเหตุและพุ่งชน อาจจะถึงขั้นบาดเจ็บและเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง ซึ่งจะมียวดยานพาหนะขับขี่เข้ามาในชุมชนจำนวนมาก จึงอยากให้มาทำการซ่อมแซมปรับปรุงโดยเร็วไว เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ลูกหลานที่กลับไปทำงานหลังปีใหม่ จะได้ไปบอกต่อว่าบ้านเมืองเราสวยงามน่ามาท่องเที่ยว

ขณะเดียวกัน มีรายงานแจ้งว่า ชาวชุมชนเมืองกาฬสินธุ์ และประชาชนที่มีบ้านพักอาศัยและสถานประกอบการอยู่บริเวณจุดก่อสร้างผู้รับเหมาทิ้งงานทั้ง 8 โครงการ ที่ชาวบ้านประณามว่า 7 ชั่วโคตร ได้สะท้อนปัญหาและความต้องการอีกว่า ในช่วงที่เข้าสู่กระบวนการตรวจสอบของ กมธ.ป.ป.ช. เพื่อรอผู้รับเหมารายใหม่เข้ามาทำงานต่อ จึงอยากให้ผู้ว่าฯ กาฬสินธุ์ เข้ามาช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้โดยเร็ว โดยเฉพาะการใช้เครื่องจักรเครื่องยนต์ มาปรับพื้นที่ไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ เนื่องจากมีหลายจุดสุ่มเสี่ยง ราวกับเป็นกับดักบนท้องถนน