เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เผยผลการจับกุม นายสุประดิษฐ์ จันทร์เปล่ง หรือ “โก๊ะ ทุ่งครุ” อายุ 32 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญาธนบุรี ที่ 960/2567 ลงวันที่ 10 ตุลาคม 2567 ข้อหาพยายามฆ่าผู้อื่น โดยชุดจับกุมประกอบด้วย พ.ต.ท.สมพงษ์ เกตุระติ สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น., ร.ต.อ.เอกภพ พันธุ, ร.ต.ท.นุรุต ฐิติชรัล, ร.ต.ต.ทรงศักดิ์ เจียมสกุล รอง สว.กก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปฏิบัติการที่ 4 สามารถจับกุมได้ที่บริเวณภายในวัดทุ่งครุ แขวงและเขตทุ่งครุ กทม. เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. ที่ผ่านมา

พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 23 ส.ค. ขณะนั้นผู้เสียหายได้ขี่รถ จยย. พาลูกชายวัยขวบเศษ ไปวัดหัวกระบือ ซอยเทียนทะเล 19 ถนนบางขุนเทียน แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน ระหว่างเดินทางกลับ ได้มีชายวัยกลางคนวิ่งมาขอความช่วยเหลือ ในสภาพได้รับบาดเจ็บ เมื่อดูแบบชัด ๆ จึงเห็นว่าเป็นคนที่เคยช่วยงานอยู่ที่วัด ผู้เสียหายจึงถามว่าไปโดนอะไรมา ทำไมสภาพสะบักสะบอมแบบนี้ ชายคนดังกล่าวจึงบอกว่าถูกทำร้าย ขอให้ช่วยพาไปส่งปากซอย จะไปหาหมอ

ผู้เสียหายจึงให้ชายคนดังกล่าว นั่งซ้อนท้าย จยย. ออกมาด้วย แต่เมื่อออกมาจากวัดได้ประมาณ 100 เมตร พบกลุ่มชายฉกรรจ์ถือไม้เบสบอลออกมาวิ่งไล่ตี จยย. โดยไม่ทราบสาเหตุ จึงรีบขี่ออกจากพื้นที่ เพื่อไปแจ้งความกับตำรวจ ระหว่างนั้นมีรถกระบะขับไล่ตาม ก่อนพุ่งชนท้ายอย่างจัง ทำให้ตนและชายที่มาขอความช่วยเหลือบาดเจ็บ ส่วนลูกชายบาดเจ็บสาหัส ตนจึงรีบพาลูกนำส่งโรงพยาบาลทันที หลังเกิดเหตุตนได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม เพื่อดำเนินคดีกับกลุ่มคนร้ายที่มาก่อเหตุ

ต่อมาศาลออกหมายจับ นายสุประดิษฐ์ อายุ 33 ปี แต่ผ่านมากว่า 3 เดือน คนร้ายยังคงลอยนวล ยังไม่ถูกจับกุมมาดำเนินคดีแต่อย่างใด ผู้เสียหายจึงร้องเรียนผ่านเพจ “..สืบนครบาล IDMB…” จนสามารถติดตามจับกุมได้ดังกล่าว
ในชั้นจับกุม นายสุประดิษฐ์ ให้การภาคเสธ อ้างว่า วันเกิดเหตุ ระหว่างที่ตนขับรถกระบะอยู่บริเวณเลียบคลองวัดหัวกระบือ แขวงท่าข้าม เขตบางขุนเทียน กทม. ได้พบเห็นคู่กรณี ซึ่งเคยมีเรื่องชกต่อยกันมาก่อนโดยบังเอิญ ด้วยความแค้นจึงบันดาลโทสะ ขับรถไล่ชน จนกระทั่งเกิดอุบัติเหตุกับคู่กรณี ทั้งนี้ ตนไม่เห็นว่า จยย. ที่ตนไล่ชนนั้นมีเด็กโดยสารมาด้วย หลังเกิดเหตุ ตนและคู่กรณีตกลงกันไม่ได้ จนขาดการติดต่อกัน ประกอบกันตนเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัยจากคู่กรณี จึงได้หลบซ่อนตัวมาพักอยู่กับบ้านของแม่ ซึ่งไม่ใช่ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน ละแวกใกล้วัดทุ่งครุ จนมาถูกจับกุมตัวในครั้งนี้ ที่ผ่านมาตนรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ขอโทษผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอรับโทษตามกฎหมาย.