มั่นใจได้เลยว่า ไม่มีใครอยากแก่ชราไปตามวัย แต่ไม่มีใครหยุดความชราของผิวได้ แต่รู้หรือไม่ว่า เราสามารถควบคุมมันได้ ซึ่งสาว ๆทุกคนฝันอยากมีผิวสวยไปตลอด หรือให้นานที่สุด ยอมทำทุกวิถีทางเพื่อให้มีผิวสวย ไม่ว่าจะเสียเงินหรือเจ็บตัว เพื่อหาวิตามินบำรุงผิวแค่ไหนก็ตาม แต่จะดีกว่าไหม ถ้าคุณไม่ต้องเสียเงิน หรือยอมเจ็บตัวเพื่อแลกกับผิวสวย
วันนี้ “เดลินิวส์ออนไลน์” มีข่าวดีมาฝาก เอาอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบำรุงผิว ที่สามารถช่วยให้ผิวของสาวๆ ดีขึ้นได้จริง เพียงแต่มุ่งมั่นและปรับปรุงพฤติกรรมการกิน หันมาทานอาหารบำรุงผิวกัน ก็จะช่วยชะลอความแก่ชราได้แน่นอน
ซึ่งสาวๆ คงอยากรู้แล้วว่า แหล่งอาหารอะไรบ้าง ที่เป็นวิตามินบำรุงผิว ช่วยให้ผิวสวย เราไปหาคำตอบพร้อมๆ กันค่ะ
7 วิตามินสำคัญสำหรับผู้หญิง
1. วิตามินซี
วิตามินซี คือ วิตามินที่ทำหน้าที่ช่วยเพิ่มภูมิต้านทานและช่วยป้องกันไข้หวัดได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังเป็นวิตามินที่ช่วยในเรื่องความสวยงามได้เป็นเลิศ นอกจากนี้วิตามินซียังเป็นวิตามินที่มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ โดยจะทำให้ผิวพรรณสวย สดใส ช่วยลดปัญหาเรื่องสิวและเรื่องของจุดด่างดำ อีกทั้งยังช่วยสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวได้ดีอีกด้วย
2. วิตามินบีรวม
วิตามินบีรวม คือ วิตามินที่ประกอบไปด้วยวิตามินบีหลากหลายชนิด โดยจะรวมวิตามินบีตั้งแต่ 3 ชนิดขึ้นไป หรืออาจจะรวมวิตามินบี 8 ชนิดเลย ในส่วนของวิตามินบีรวม จัดเป็นสารอาหารที่ช่วยบำรุงร่างกายและระบบประสาท ซึ่งวิตามินชนิดนี้ จะสามารถละลายน้ำได้ดี และมักจะไม่เกิดการสะสมในร่างกาย ดังนั้นถ้าต้องการฟื้นฟูร่างกายในทุกวัน ก็สามารถกินวิตามินบีรวมได้ อาหารที่มีวิตามินบีรวมสูง ได้แก่ เนื้อสัตว์ ไข่แดง ปลา พืชผักใบเขียว จมูกข้าวสาลี ข้าวโอ๊ต ถั่วเหลือง ถั่วลิสง กะหล่ำปลี หรือแม้กระทั่ง ยีสต์
3. วิตามินอี
วิตามินอี คือ วิตามินที่สามารถละลายได้ดีในไขมัน ซึ่งจัดเป็นวิตามินที่มีความสำคัญต่อร่างกายอย่างมาก เพราะช่วยป้องกันการแตกของเม็ดเลือดแดง ช่วยป้องกันการเกิดลิ่มเลือด และลดการอุดตันของเส้นเลือด นอกจากนี้ ยังช่วยลดการเกิดกระบวนการอักเสบในร่างกาย ซึ่งเป็นตัวการที่อาจนำไปสู่การเกิดโรคต่างๆ ได้ ในส่วนของวิตามินอีนั้น มีหน้าที่หลักๆ คือเปรียบเสมือนฟองน้ำที่คอยทำหน้าที่ดูดซับอนุมูลอิสระ ที่เป็นตัวการสำคัญทำให้เซลล์หรือเนื้อเยื่อถูกทำลาย ส่วนแหล่งอาหาร ได้แก่ อัลมอนด์ ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบเมล็ดหรือผ่าซีก ติดไว้ในตู้เสบียงอาหารเลยอย่าให้ขาด ถ้าคุณไม่ชอบถั่วเมล็ดใหญ่และแข็ง เราแนะนำให้ทานเมล็ดทานตะวัน เฮเซลนัท มะม่วง ผลกีวี มะเขือเทศ ผักโขม น้ำมันมะกอก น้ำมันทานตะวัน
4. โอเมก้า
โอเมก้า คือ วิตามินที่อยู่ในกลุ่มของกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว เป็นวิตามินที่มีความจำเป็นต่อระบบการทำงานภายในร่างกาย โดยเป็นวิตามินที่ร่างกายไม่สามารถสร้างเองได้ แต่ต้องได้รับจากการกินอาหารชนิดต่างๆ ที่มีโอเมก้า ในส่วนของโอเมก้านั้น หากร่างกายได้รับไม่เพียงพอ จะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ง่าย โดยเฉพาะทำให้เกิดปัญหาผิวหนังสาก ผิวหนังหยาบ และผิวหนังมีลักษณะเป็นเกล็ด อีกทั้งยังอาจส่งผลกระทบต่อกระเพาะอาหารและลำไส้ได้ด้วย
ส่วนแหล่งของโอเมก้า 3 ที่พบมากที่สุด ได้แก่ ปลาทู ปลาแซลมอน ปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน แต่หากว่าคุณไม่ทานปลา คุณอาจเลือกทานจากพืชบางชนิดได้ ดังนี้ เมล็ดแฟลกซ์ อาจผสมเมล็ดแฟลกซ์บดลงในสมูทตี้ โยเกิร์ต หรืออาหารเช้า เมล็ดเจีย ลองทำเมนูกราโนล่าที่ใส่เมล็ดเจีย หรือสมูทตี้
5. แคลเซียม
แคลเซียม คือ วิตามินที่มีความสำคัญต่อระบบสรีรวิทยาของเซลล์ และมีความสำคัญต่อการยืดหดตัวของกล้ามเนื้อ อีกทั้งยังเป็นธาตุที่มีความจำเป็นในการสร้างและรักษากระดูกและฟันให้แข็งแรง ทั้งนี้เมื่อร่างกายของคนเราขาดแคลเซียม หรืออยู่ในภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำกว่าปกติ จะส่งผลกระทบต่อกระดูก รวมถึงทำให้การทำงานของร่างกายผิดปกติไปด้วย โดยจะเห็นความผิดปกติได้จากลักษณะของเล็บที่แห้ง เปราะบาง และแตกง่าย
6. คอลลาเจน
คอลลาเจน คือ วิตามินที่ทำหน้าที่แตกต่างไปจากวิตามินอื่นๆ เนื่องจากเส้นใยของคอลลาเจนจะมีลักษณะเป็นสายเกลียวที่มีหน่วยโมเลกุลเกี่ยวพันกันมากมาย โดยคอลลาเจนจะมีความสำคัญต่อผิวหนังอย่างมาก และโดยปกติแล้ว ผิวหนังจะมีคอลลาเจนเป็นโครงสร้างอยู่มากมาย จึงทำให้ผิวหนังเกิดการยืดหยุ่นได้ดี ทั้งนี้คอลลาเจนไม่ได้มีความสำคัญแค่เฉพาะต่อผิวหนังเท่านั้น แต่ยังเป็นส่วนประกอบของอวัยวะอื่นๆ ได้แก่ กระดูกอ่อน เอ็นกล้ามเนื้อ เอ็น และกระดูกด้วยเช่นกัน แหล่งอาหารที่ให้คอลลาเจน ได้แก่ โปรตีนจากเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน ปลาน้ำลึก ปลาน้ำจืด ธัญพืช จะเป็นผลไม้สีส้ม สีเหลือง ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ผลไม้ตระกูลซิตรัส ผลไม้เขตร้อน
7. สังกะสี
สังกะสี คือ วิตามินที่พบได้น้อยแต่กลับมีความจำเป็นต่อร่างกาย ทั้งนี้ ร่างกายของคนเราไม่สามารถกักเก็บสังกะสีเองได้ จึงมีความจำเป็นต่อการเลือกกินอาหารที่อุดมด้วยสังกะสีเข้าไปแทน และเมื่อใดที่ร่างกายขาดสังกะสี จะทำให้เกิดภาวะตัวเล็ก ร่างกายขาดความสามารถในการรับรสชาติของอาหาร และยังทำให้รังไข่ทำงานผิดปกติอีกด้วย
อาหารที่มีแร่ธาตุสังกะสีสูง ได้แก่ เนื้อไก่ เนื้อหมู กุ้ง ปู หอย (โดยเฉพาะหอยนางรม) ในผัก เช่น ผักโขม และยังพบใน มันฝรั่ง มะเขือเทศ ข้าวกล้อง ข้าวสาลี เมล็ดฟักทอง ถั่วลิสง งา ในผลไม้ ได้แก่ มะม่วง แอปเปิ้ล สับปะรด
จะเห็นได้ว่าวิตามินทั้ง 7 ชนิด ที่เราได้กล่าวไปข้างต้น ล้วนเป็นวิตามินที่มีความสำคัญต่อร่างกายของผู้หญิงอย่างมาก โดยวิตามินแต่ละชนิด จะมีหน้าที่และความสำคัญต่อร่างกายที่แตกต่างกันไป ดังนั้นจึงแนะนำให้ผู้หญิงทุกคนพยายามบริโภควิตามินเหล่านี้ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เพื่อให้ร่างกายมีสุขภาพที่ดีต่อไป