สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองอิสตันบูล ประเทศตุรกี เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ว่า นายฮาคัน ฟิดาน รมว.การต่างประเทศตุรกี กล่าวว่า รัฐบาลอังการาติดต่อโดยตรงไปยังรัสเซียและอิหร่าน ให้ถอยห่างจากการให้ความสนับสนุนรัฐบาลและกองทัพซีเรียของประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ระหว่างที่กองกำลังฝ่ายต่อต้านปฏิบัติการสายฟ้าแลบ ไล่ยึดเมืองใหญ่หลายแห่งของซีเรีย จนกระทั่งถึงกรุงดามัสกัส เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. ที่ผ่านมา และขับไล่อัสซาดได้ในที่สุด


แม้รัสเซียและอิหร่านมอบความสนับสนุนทางทหารให้แก่ฝ่ายรัฐบาลซีเรีย ฟิดานเชื่อมั่นว่า ฝ่ายต่อต้านจะยังคงได้รับชัยชนะ แต่สถานการณ์ “จะนองเลือดมากกว่านี้”


จนถึงตอนนี้ รัฐบาลอังการายังคงสงวนท่าที ที่มีต่อรัฐบาลเปลี่ยนผ่านชุดใหม่ของซีเรีย ซึ่งนำโดยกลุ่มฮายัต-ตาห์รีร์-อัล-ชาม (เอชทีเอส) แต่หลายฝ่ายเชื่อว่า ตุรกีมอบความสนับสนุนให้แก่เอชทีเอสและแนวร่วมมาตลอด “โดยไม่จำเป็นต้องประกาศอย่างเป็นทางการ”


อย่างไรก็ตาม ฟิดานกล่าวว่า ตุรกีไม่ได้สนับสนุนปฏิบัติการของกองกำลังฝ่ายต่อต้านในภาคเหนือของซีเรีย และมองว่า การที่อัสซาดหมดอำนาจ เป็นผลจากการไม่ร่วมเจรจาอย่างจริงจังกับนานาประเทศ และตอนนี้ตุรกีเริ่มดำเนินการตามขั้นตอน เพื่อให้ผู้ลี้ภัยชาวซีเรียราว 3 ล้านคน ที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศ ได้เดินทางกลับภูมิลำเนา


นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ระดับสูงของตุรกีมองว่า ชาวซีเรียยังไม่อยู่ในสถานะที่จะฟื้นฟูประเทศด้วยตัวเอง ดังนั้น นานาชาติซึ่งรวมถึงกลุ่มมหาอำนาจในภูมิภาค ต้องเข้าไปแสดงบทบาท “อย่างรอบคอบ” เพื่อธำรงไว้ซึ่งอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของซีเรีย และป้องกันไม่ให้ “กลุ่มก่อการร้าย” สามารถแสวงหาผลประโยชน์ จากสถานการณ์ที่ยังคงสุ่มเสี่ยงและเปราะบาง พร้อมทั้งย้ำว่า รัฐบาลซีเรียชุดใหม่ ต้องมาจากการตัดสินใจของชาวซีเรียเท่านั้น.

เครดิตภาพ: AFP