ท้าทายระบบส่งท้ายปลายปี เมื่อตำรวจ สน.ทองหล่อ บุกเข้าตรวจค้นการจัดปาร์ตี้เฉพาะกลุ่มได้คาโรงแรมกลางกรุง หลังสายลับคาบข่าวแจ้งเบาะแสปาร์ตี้ต้องสงสัยมั่วสุม

แต่ใครจะคิด ภายในห้องราคาคืนละ 1 แสนบาท จะแออัดไปด้วยคนนับร้อยชีวิต ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นผู้ชาย และล้วนอยู่ในสภาพ “น้อยชิ้น” ร่วมวงสนุกสนานไม่ธรรดา เพราะมียาเสพติดร่วมด้วย

“ทีมข่าวอาชญากรรม” ย้อนเบื้องหลังปฏิบัติการหลังรับแจ้งเบาะแส 6 ธ.ค. รุ่งขึ้น 7 ธ.ค. ตำรวจวางแผนเข้าค้น รอจังหวะข้ามวัน เวลาประมาณตี 1 ครึ่ง ของวันที่ 8 ธ.ค. บุกไปยังชั้น 20 ของโรงแรมแห่งหนึ่งพื้นที่กรุงเทพมหานคร

พบภาพชายหนุ่มนักเที่ยวไทยและต่างชาติขณะเปิดเพลง กินดื่มนับร้อยชีวิต

หลังเข้าตรวจค้นพบจำนวนแน่ชัด 124 คน แบ่งเป็นผู้ชาย 122 คน ผู้หญิง 2 คน ผู้ชายอยู่ในสภาพถอดเสื้อผ้าเหลือเพียงกางเกงใน แต่ที่น่าสนใจคือการพบยาเสพติด ลักษณะเป็นยาเสพติดประเภท คลับดรัก (Club drugs) หรือ ยาเสพติดซึ่งเป็นที่นิยมของนักเที่ยวกลางคืนอย่าง ยาอี ยาไอซ์ ยาเค

ในจำนวน 124 คน แยกเป็นกลุ่มผู้ครอบครองยาเสพติด 31 คน เสพยาเสพติด 66 คน ส่วนอีก 27 คน ตรวจปัสสาวะไม่พบสารเสพติด

วิธีการสื่อสารร่วมงานของกลุ่มนี้ เป็นการติดต่อผ่านช่องทางอินสตาแกรม โดยบนหน้าอินสตาแกรมจะมีลิงก์เชื่อมต่อไปยัง “กลุ่มลับ” ในแอปพลิเคชันเทเลแกรม เพื่อนัดแนะพบปะ สกัดคนนอกแฝงตัว

ทุกคนที่เข้าร่วมปาร์ตี้ต้องยืนยันตัวตน เมื่อถึงเวลานัดหมาย ผู้ร่วมงานจะมาที่โรงแรม หรือสถานที่จัดงาน พร้อมยืนยันตัวตน ก่อนทีมงานนำริสต์แบนด์สวมข้อมือ และพาขึ้นไปยังห้องจัดงานที่ผู้ร่วมงานทุกคนต้องถอดเสื้อผ้า เหลือเพียงกางเกงใน

ภายในงานนอกจากมีชั้นในแบรนด์ดัง ซึ่งเป็นที่นิยมระดับท็อปไว้จำหน่าย ยังมียาเสพติดให้เลือกซื้อ ปาร์ตี้กลุ่มนี้เคยจัดมาแล้ว 3 ครั้ง เป็นโรงแรมเดียวกันนี้ 1 ครั้ง และอีกครั้งเป็นโรงแรมย่านสาทร โดยทำเป็นกลุ่มเฉพาะ เลือกเช่าสถานที่แบบไพรเวท คนไม่พลุกพล่าน และเลือกช่วงเวลาจัดงานประมาณเที่ยงคืน ถึงตี 4

การจัดปาร์ตี้นี้ ตำรวจให้ข้อมูลว่า สะท้อนภาพจัดงานที่ปรับรูปแบบจากเดิมการเสพยามักอยู่ตามสถานบริการ แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นเช่าคอนโดฯ เช่าโรงแรม ทำให้ตำรวจต้องปรับแผนการหาข้อมูล ซึ่งนอกจากเบาะแสจากสาย มองว่าการสอดส่องการรวมตัวจำนวนมากจนผิดสังเกตของสถานที่ต่าง ๆ เป็นอีกช่องทางที่ทำให้ปฏิบัติสำเร็จ

แม้เป็นที่รู้กันว่าการจัดปาร์ตี้เช่นนี้มีมาอย่างต่อเนื่อง แต่ในห้วงใกล้เทศกาลเฉลิมฉลอง น่าจะยิ่งต้องเฝ้าระวังมากขึ้น ทั้งแหล่งบันเทิงเปิดเผย และการรวมกลุ่มเฉพาะในสถานที่ลับ

กรณีที่เพิ่งเกิดขึ้น พบว่ามีการยา GHB (gamma-hydroxybutyric) หรือที่รู้จักกันว่าเป็น ยาเสียสาว-ยาเสียหนุ่ม จัดอยู่ในกลุ่มวัตถุออกฤทธิ์ประเภทที่ 1 ซึ่งออกฤทธิ์กระตุ้นระบบประสาท ทำให้ตื่นตัว รู้สึกสนุก กระตุ้นความรู้สึกทางเพศร่วมอยู่ด้วย ดังนั้น แม้การรวมกลุ่มสังสรรค์จะไม่ใช่เรื่องผิด แต่มีการใช้ยาเสพติดร่วมด้วยผิดแน่นอน

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์การใช้ยาเสพติด โดยเฉพาะในกลุ่มนักเที่ยวช่วงหลังมีข้อน่าห่วงใยคือ พบการใช้แบบผสมมากขึ้น ทั้งในรูปแบบ “Happy water” ที่เป็นการผสมยาเสพติดหลายชนิด อาทิ ยาอี เมทแอมเฟตามีน สารไดอาซีแพม กาเฟอีน และ ทาร์มาดอน หรือยาที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท โดยนำมาผสมกับน้ำร้อน น้ำหวาน หรือมีการดื่มร่วมกับแอลกอฮอล์ ซึ่งเสี่ยงอันตรายถึงแก่ชีวิต

นอกจากนี้ ยังมี “เคนมผง” หรือ ยาเสพติดสูตรมรณะ เนื่องจากมีส่วนผสมสารเสพติดรุนแรงหลายชนิดทั้ง ยาเค ยาไอซ์ เฮโรอีน และยานอนหลับ ก็เพิ่งเริ่มพบไม่กี่ปีที่ผ่านมา และเคยมีกรณีผู้เสียชีวิตมาแล้วหลายราย ซึ่งเคยปรากฏเป็นข่าวเมื่อปี 64

การทลายปาร์ตี้ที่กล้ารวมตัวคนจำนวนมากลักษณะนี้ จึงเป็นโจทย์ท้าทายระบบที่น่าจับตา กระบวนการสอดส่องเข้มเพิ่มขึ้นหลังจากนี้หรือไม่.

ทีมข่าวอาชญากรรม รายงาน