ความเคลื่อนไหวของ “บูม” กษิดิศ สำเร็จ นักเทนนิสชาย มือ 1 ของไทย และ “เอิร์ธ” เพียงธาร ผลิพืช นักเทนนิสหญิง มือ 1 ของไทย ในประเภทหญิงคู่ ที่คว้าไวลด์การ์ดในประเภทชายเดี่ยวและหญิงคู่ ตามลำดับ เข้าไปแข่งขันในรอบเมนดรอว์ ศึกเทนนิสแกรนด์สแลมแรกของปี รายการ “ออสเตรเลียน โอเพ่น 2025” ที่นครเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ระหว่างวันที่ 12-26 ม.ค. 68

ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา นักหวดไทยทั้งสองคน ได้ลงฝึกซ้อม พร้อมกับเปิดใจให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ถึงความพร้อมก่อนทำศึกใหญ่ทัวร์นาเมนต์นี้ ที่ศูนย์พัฒนากีฬาเทนนิสแห่งชาติ สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทยฯ เมืองทองธานี จ.นนทบุรี

“บูม” กษิดิศ สำเร็จ วัย 23 ปี มือ 414 ของโลก เผยว่า ดีใจมากๆ ที่ได้ตั๋วร่วมศึกแกรนด์สแลม “ออสเตรเลียน โอเพ่น 2025” เดิมตั้งใจจะเข้าไปแข่งขันรายการนี้ให้ได้ในปี 2026 แต่มาทำสำเร็จได้ตั้งแต่ปีนี้ ถือเป็นอะไรที่เกินความคาดหวังของตนมากๆ ส่วนปัจจัยที่ทำให้สามารถชนะในการแข่งขันชิงไวลด์การ์ด และผ่านเข้าร่วมรอบเมนดรอว์ ออสเตรเลียน โอเพ่น 2025 ได้ หลักๆ น่าจะมาจากการที่จริงจังมากขึ้น มีวินัยมากขึ้น ซึ่งก็ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตนมีผลงานที่ดีขึ้น และชนะในการแข่งขันที่จีน

“ช่วงปลายปี 2024 ผมลงแข่งในเอทีพี ชาเลนเจอร์ ที่สูงกว่าระดับไอทีเอฟ มากขึ้น ซึ่งได้เจอคู่แข่งที่แข็งแกร่งขึ้น เกมการเล่นของผมก็พัฒนามากขึ้น ถือเป็นหนึ่งในแผนที่เตรียมกันไว้กับทีมว่าจะต้องออกไปแข่งในทัวร์ที่สูงขึ้น เพื่อโอกาสในการพัฒนาตัวเอง กลับมาไทยรอบนี้ ยังคงเตรียมตัวต่อเพื่อให้พร้อมสำหรับการแข่งขันใน “ออสเตรเลียน โอเพ่น” ซึ่งต้องเล่น 3 ใน 5 เซต ดังนั้นการเตรียมตัวก็จะเข้มข้นขึ้นแน่นอน ที่สำคัญก็ถือว่าเป็นการได้เตรียมตัวสำหรับปี 2025 ไปด้วย”

กษิดิศ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ก็อดใจไม่ไหวแล้วเช่นกัน ที่จะได้ลงเล่นแกรนด์สแลมแรกในชีวิต ส่วนตัวมองว่าเจอกับใครก็ได้ ถ้าเลือกได้อยากจะเจอ โนวัค โยโควิช เพราะอยากเล่นกับเขาเหมือนกัน จะได้รู้ว่าเกมจะออกมาเป็นอย่างไร ไปครั้งนี้จะพยายามทำหน้าที่ให้ดีที่สุด ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะคว้าชัยชนะให้ได้ ส่วนหลัง “ออสเตรเลียน โอเพ่น” ตนก็จะตระเวนแข่งขันต่อเนื่อง เพื่อเก็บคะแนนทำอันดับโลกให้สูงขึ้น เพื่อโอกาสเข้าไปเล่นในระดับเอทีพีทัวร์ ตนเองตั้งเป้าจะทำอันดับเข้าไปติดท็อป 200 ให้ได้เป็นอย่างน้อย ส่วนรายการต่อไปที่จะกลับมาลงสนามก็คือ BANGKOK OPEN 2025 (1) ระหว่างวันที่ 29 ธ.ค. 67-4 ม.ค. 68 ที่ประเทศไทย

ทางด้าน “เอิร์ธ” เพียงธาร ผลิพืช วัย 32 ปี มือ 128 ของโลก ในประเภทหญิงคู่ เปิดใจว่า ดีใจที่สามารถคว้าไวลด์การ์ดเข้าร่วมแกรนด์สแลม “ออสเตรเลียน โอเพ่น 2025” ได้สำเร็จ ในประเภทหญิงคู่ ซึ่งถือเป็นแกรนด์สแลมครั้งที่ 3 ของตนเอง ต่อจาก “ออสเตรเลียน โอเพ่น 2022” และ “วิมเบิลดัน 2022” สิ่งที่ทำให้คว้าไวลด์การ์ดในครั้งนี้ได้ หลัก ๆ เป็นเพราะมีฟอร์มการเล่นที่ดี ซึ่งน่าจะมาจากการลงไปเล่นแล้วสนุกกับเกม สนุกกับคู่ที่เล่นด้วย ซึ่งพอชนะบ่อยๆ ก็ยิ่งมั่นใจและผลงานก็ออกมาดี

“เอิร์ธมีเป้าหมายว่าอยากจะเอาชนะคู่แข่งใน “ออสเตรเลียน โอเพ่น” ให้ได้ ส่วนการเตรียมตัวหลังจากนี้ ในช่วงปลายปีนี้ไปจนถึงต้นปี 2025 ก็คิดไว้ว่าอยากจะจับคู่กับ เส้า เซียะ ยี่ จากไต้หวัน คู่ที่ช่วยกันคว้าตั๋วแกรนด์สแลม ลงแข่งด้วยกันให้ได้สัก 2-3 แมตช์ แต่ถ้าไม่ได้เล่นดับเบิลยูทีเอทัวร์ หรือไม่ได้เล่นด้วยกัน ก็อาจต้องปรับแผนอีกที โดยคงจะลงแข่งขันในแมตช์ไอทีเอฟ ที่ไทย เพื่อเตรียมความพร้อมต่อไป”​

เพียงธาร ยังเผยอีกว่า ช่วงนี้ถือเป็นช่วงท้ายๆ ของการเล่นเทนนิสแล้ว ส่วนตัวตั้งใจจะรักษาร่างกายและผลงาน เพื่อไปให้ถึงศึกเอเชียนเกมส์ ​2026 ที่นาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น อีกสักครั้ง ถ้าเล่นไปแล้วยังมีผลงานที่ดี มีอันดับโลกที่ดี ขึ้นไปติด 70 อันดับแรกของโลกได้ ก็อยากจะพัฒนาและเล่นต่อไปเรื่อยๆ ก่อน เพราะจะมีโอกาสได้เล่นรายการใหญ่ และเล่นแกรนด์สแลมต่อเนื่องด้วย แต่ถ้าหลุดไปเกิน 120 ก็อาจจะถึงเวลาที่ต้องเลิกเล่น สำหรับตนอยากฝากแฟนๆ ช่วยเชียร์นักกีฬาไทยที่จะไปแข่งขันในศึกออสเตรเลียน โอเพ่น 2025 ด้วย ซึ่งนอกจากตนและบูมแล้ว ก็จะมี “รวงข้าว” ลัลนา ธาราฤดี และ “ไหม” มนัญชญา สว่างแก้ว ที่จะได้ไปเล่นด้วยอันดับโลก และยังมี “น้องบัว” กมลวรรณ​ ยอดเพ็ชร ที่ได้ไวลด์การ์ดไปเล่นในระดับเยาวชน “ออสเตรเลียน โอเพ่น จูเนียร์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2025” ด้วย

อนึ่ง “บูม” กษิดิศ สำเร็จ ได้แชมป์ชายเดี่ยว “2025 เอโอ เอเชีย-แปซิฟิก ไวลด์การ์ด เพลย์ออฟ” ที่ประเทศจีน จึงทำให้ได้ไวลด์การ์ดเข้าไปแข่งขันรอบเมนดรอว์ ประเภทชายเดี่ยว ศึกแกรนด์สแลม “ออสเตรเลียน โอเพ่น 2025”

ส่วน “เอิร์ธ” เพียงธาร ผลิพืช ได้แชมป์ประเภทหญิงคู่ จากรายการเดียวกัน จึงทำให้ได้ไวลด์การ์ดรอบเมนดรอว์ ประเภทหญิงคู่ “ออสเตรเลียน โอเพ่น 2025” โดย กษิดิศ กับ เพียงธาร นั้น ได้รับการสนับสนุนจาก สมาคมกีฬาลอนเทนนิสแห่งประเทศไทยฯ และ PTT หรือ ปตท. นอกจากนี้ กษิดิศ ยังได้รับการสนับสนุนจาก สิงห์ คอร์เปอเรชั่น อีกด้วย