นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี มีข้อสั่งการในที่ประชุม ครม. เรื่องการค้าการลงทุน ภายหลังจากในช่วงที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีได้พบกับนักลงทุน ทั้งในช่วงที่เดินทางไปต่างประเทศ และการพบกับสมาคมการค้าและภาคธุรกิจต่าง ๆ ทำให้เห็นถึงโอกาสของประเทศไทยที่จะดึงดูดนักลงทุน ภายใต้สถานการณ์ที่มีความเสี่ยงจากภูมิรัฐศาสตร์การเมืองระหว่างประเทศ โดยเฉพาะนโยบายทางการค้าของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่เร่งให้บริษัทจำเป็นต้องเร่งปรับตัวและปรับแผนในการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน

ขณะเดียวกันก็ได้รับฟังถึงความท้าทายและข้อจำกัดต่าง ๆ ที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข จึงได้ฝากเรื่องที่จะต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน 4 เรื่อง เพื่อช่วยดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ได้แก่ 

1. การพัฒนาพื้นที่สำหรับรองรับการลงทุน โดยเฉพาะการจัดสรรและพัฒนาที่ดินให้เป็นพื้นที่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่
2. ไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดยบริษัทรายใหญ่ในอุตสาหกรรมเป้าหมายต้องการพลังงานหมุนเวียนสะอาด 
3. มาตรการรองรับการจัดเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลขั้นต่ำ (Global Minimum Tax) ซึ่งจำเป็นต้องออกกฎหมายให้ทันการบังคับใช้ในปี 2568 ทั้งในส่วนของการจัดเก็บภาษีขั้นต่ำและมาตรการด้านสิทธิประโยชน์
4. การแก้ไขกฎระเบียบอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกในการประกอบธุรกิจ เช่น การผ่อนปรนเงื่อนไขการจ้างงานชาวต่างชาติของกระทรวงแรงงาน โดยเฉพาะในกลุ่มบุคลากรทักษะสูง โดยมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบีโอไอ จัดทำรายละเอียดมาตรการผ่านนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เพื่อมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป