เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. 67 พ.ต.อ.วีระศักดิ์ ศรีทอง ผกก.สภ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ได้รายงานเหตุคดีน่าสนใจ เป็นคดีทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส แขนหัก ผู้เสียหายคือ พระมหาเอกชนะ เขียวกุ้ง อายุ 41 ปี ส่วนผู้ต้องหาคือพระครู เจ้าอาวาสวัดชื่อดังแห่งหนึ่ง ใน ต.พรหมโลก อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช เหตุเกิดช่วงค่ำวันที่ 1 ธ.ค. 67 ที่ผ่านมา

พระมหาเอกชนะ ผู้เสียหายให้การกับพนักงานสอบสวนว่า เป็นพระธุดงค์ ได้มาขอพักอาศัยเพื่อปฏิบัติธรรมอยู่วัดที่เกิดเหตุ ซึ่งก่อนเกิดเหตุในขณะที่กำลังพูดคุยกับนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมพระธาตุเจดีย์ในวัด ได้มีพระครูเจ้าอาวาสวัด และพระภิกษุอีกรูปหนึ่งไม่ทราบชื่อสกุลจริง ขึ้นมา โดยพระครูถือท่อนไม้มาด้วยและได้เรียก พระมหาเอกชนะ มาพบและกล่าวหาว่า พระมหาเอกชนะ ทำลายทรัพย์สินของวัดและลำโพงเครื่องเสียงของพระครู เสียหายจนเสียงไม่ดัง แต่พระมหาเอกชนะ ผู้เสียหายยืนยันไม่ได้ทำ และเมื่อไปตรวจสอบจึงพบว่าสายลำโพงหลุด ทำให้เสียงไม่ดัง พระมหาเอกชนะ บอกว่าขอต่อสายลำโพงให้ แต่ขณะที่พระมหาเอกชนะ ผู้เสียหายกำลังต่อสายลำโพงอยู่นั้น พระครูได้ตรงเข้าไปใช้ท่อนไม้ตีที่บริเวณศีรษะของพระมหาเอกชนะอย่างแรง ขณะที่พระมหาเอกชนะ ได้ยกมือซ้ายขึ้นปิดบังใบหน้าและศีรษะ จนเป็นเหตุให้กระดูกแขนข้างซ้ายหัก ส่วนท่อนไม้อาวุธที่ทำร้ายพระมหาเอกชนะ ก็หักเป็นสองท่อนเช่นเดียวกัน

หลังเกิดเหตุพระครู ยังพูดจาข่มขู่ไม่ให้ผู้เสียหายไปแจ้งความกับตำรวจ หากไม่เชื่อฟังจะ “ยิงให้ตายหมกภูเขา” หลังจากนั้นพระครู และพระอีกรูปหนึ่งที่มาด้วยกัน เดินลงจากพระธาตุเจดีย์ไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทางพระมหาเอกชนะ จึงโทรศัพท์ไปหาบิดาให้มารับไปส่งโรงพยาบาลพรหมคีรี ซึ่งแพทย์ได้ช่วยเหลือและวินิจฉัยว่าแขนข้างซ้ายหัก พระมหาเอกชนะจึงไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้กับ ร.ต.อ.จรัญ มาศเมฆ พนักงานสอบสวน สภ.พรหมคีรี โดยทางพนักงานสอบสวน จะมีหมายเรียกพระครูมาสอบสวน อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้มีการเรียกมาสอบสวนหรือรับทราบข้อกล่าวหาแต่อย่างใด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่พระครูรายดังกล่าว ได้ประสานทนายความเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนในบ่ายของวันพรุ่งนี้ (4 ธ.ค.) ซึ่งได้ให้ข้อมูลเหตุการณ์เบื้องต้นกับทนายความว่า พระมหาเอกชนะ เป็นพระสังกัดวัดแห่งหนึ่ง มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหลายประการและมีสติสัมปชัญญะไม่อยู่กับร่องกับรอย จึงถูกไล่ออกจากวัด เร่ร่อนไปเรื่อย จึงมาขออาศัยที่พระธาตุเจดีย์ในบริเวณวัด อ้างว่าจะขอพักเพียงหนึ่งคืนแล้วจะออกจากวัดไป แต่หลังจากนั้นกลับไม่ยอมออกจากวัดและยังรื้อค้นทำลายข้าวของในกุฏิพระบนเชิงเขา เจ้าอาวาสพูดสอบถามและได้สั่งการผ่านเครื่องเสียงตามสายของวัด แต่ปรากฏว่าเสียงได้ขาดหายไป เจ้าอาวาสจึงพร้อมด้วยพระลูกวัดอีกรูปจึงเดินถือไม้เท้าขึ้นไปที่พระธาตุเจดีย์บนเชิงเขา เพื่อตรวจสอบและพบว่าพระมหาเอกชนะได้ถอดสายลำโพงออก

จึงเกิดการเจรจาโต้เถียงกันขึ้น จนพระมหาเอกชนะไม่พอใจและถือมีดอยู่ในมือตลอดเวลา ก่อนจะพุ่งเข้าไปจะแทงเจ้าอาวาส จึงใช้ไม้เท้าตีไปที่ข้อมือเพื่อป้องกันตัวจนมีดหล่นอยู่ในที่เกิดเหตุ โดยพระมหาเอกชนะ ยังมีอาการเหมือนคนคลุ้มคลั่งได้พุ่งเข้าไปชกต่อยและล็อกคอเจ้าอาวาสเอาไว้ ในขณะที่เจ้าอาวาสพยายามดิ้นจนหลุดและรีบวิ่งหนีตายลงจากภูเขาทันที ก่อนที่พระมหาเอกชนะ จะติดต่อญาติให้มารับไปรักษาที่โรงพยาบาลพรหมคีรีและเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ดำเนินคดีกับเจ้าอาวาส ในข้อหาทำร้ายร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัสดังกล่าว ซึ่งทางเจ้าอาวาสยืนยันว่าพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยจะเข้าพบพนักงานสอบสวนปากคำตามความเป็นจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในวันพรุ่งนี้ (4 ธ.ค.) ดังกล่าว.