เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 3 ธ.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า เรื่องปัญหาฝุ่น PM 2.5 ได้สั่งการทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำโดยนายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกฯ และ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ร่วมหารือกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เร่งกำหนดมาตรการในการป้องกันมลพิษทางอากาศ ทั้งในส่วนปัญหาการเผาในการเกษตร ปัญหาไอเสีย รถยนต์ และฝุ่นควันจากภาคอุตสาหกรรม เช่น มาตรการไม่รับซื้อผลผลิตสถานการณ์การเกษตร ในกรณีที่พิสูจน์ได้ว่ามีกระบวนการผลิตที่ใช้การเผา ยกตัวอย่างใน จ.เชียงใหม่ ที่มีจุดที่เป็นฮอตสปอต แล้วพื้นที่เผาไหม้ลดลง จากปี 2566 คิดเป็นร้อยละ 50 เปอร์เซ็นต์
นายกฯ กล่าวอีกว่า ดังนั้นแนวโน้มของปี 2568 จะมีแนวโน้มไม่รุนแรงถ้าเทียบกับปี 2566 ประกอบกับมาตรการที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น ไม่ว่าจะเรื่องของครอบคลุมเมือง ป่า เกษตรหมอกควันข้ามแดน โดยกระทรวงการต่างประเทศมีมาตรการแก้ไขปัญหาหมอกควันความข้ามแดน ภายใต้ยุทธศาสตร์ฟ้าใส (Clear sky Strategy) ร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน และยังมีนวัตกรรมอีกมากมายที่จะใช้สนับสนุนดับฝุ่นควัน ในส่วนของกรุงเทพมหานคร สั่งการให้ผู้ว่าฯ กทม. ร่วมมือกับทุกภาคส่วน ในการป้องกันปัญหา PM2.5 โดยจำนวนค่า PM2.5 ที่เกินมาตรฐานที่ตรวจพบ เทียบกับปี 2566 นับว่ามีการลดลง 20 เปอร์เซ็นต์ ในปีนี้คาดการณ์ว่าปัญหาฝุ่นควันจะจัดการได้ดีขึ้น.