สร้าง “เม็ดเงิน” จากการอนุรักษ์ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมเป็นจริงได้ ความสำเร็จของธนาคารต้นไม้บ้านห้วยหนามตะเข้ ต.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี เป็นตัวอย่างของการพัฒนาชุมชนภายใต้การอาศัยพึ่งพาซึ่งกันและกันระหว่างคนกับป่า จนนำไปสู่ประโยชน์ภาพรวมของสิ่งแวดล้อมที่ดี มีระบบนิเวศที่ยั่งยืนเกิดขึ้นในพื้นที่

จากแนวคิด “ธนาคารต้นไม้” ที่วางเป้าหมายสำคัญคือการส่งเสริมให้ประชาชนในชุมชนปลูกต้นไม้ ไม่ว่าไม้มีค่าเชิงเศรษฐกิจ อาทิ ไม้สัก ไม้พะยูง หรือในเชิงสิ่งแวดล้อม เช่น ต้นไม้ที่ช่วยเพิ่มพื้นที่สี สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดผลพลอยได้สำคัญคือการสร้างรายได้ระยะยาว จากการขายคาร์บอนเครดิต และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

จุดแข็ง” ของธนาคารต้นไม้บ้านห้วยหนามตะเข้คือการใช้ “ภูมิปัญญาท้องถิ่น” ผสานเข้ากับการลงมือร่วมใจของคนในชุมชน ผ่านการปลูกและดูแลต้นไม้ที่เหมาะสมกับภูมิประเทศของ จ.อุทัยธานี การสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับประโยชน์ของต้นไม้ในทุกมิติ รวมถึงการใช้ต้นไม้เป็นหลักประกันทางเศรษฐกิจ เช่น การค้ำประกันสินเชื่อในอนาคต

นอกจากสามารถขายคาร์บอนเครดิต ปัจจุบันชุมชนบ้านห้วยหนามตะเข้ยังยกระดับเป็นศูนย์เรียนรู้การพัฒนาเศรษฐกิจพอเพียงต้นแบบธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ตลอดจนเป็นแหล่งเรียนรู้ฟาร์มเพาะปลูกที่ใหญ่ที่สุดของจังหวัด

ความรู้สึกของคนในชุมชนต่างมุ่งหวังไปในทิศทางเดียวกันคือ ลดการพึ่งพิงป่า และพึ่งพาตัวเองให้ได้ ภายใต้การจับมือกันร่วมอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะการบริหารจัดการป่าชุมชน

ภาพสะท้อนความสมบูรณ์จากการได้รับการดูแลอย่างดีจากชุมชน ส่งผลให้ในพื้นที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ และ “จุดเด่น” สำคัญคือภูมิปัญญาด้าน “สมุนไพร”

ทั้งนี้ ชุมชนบ้านห้วยหนามตะเข้มีการใช้สมุนไพรในหลากรูปแบบ ทั้งเพื่อการดูแลสุขภาพ การรักษาโรค และการพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่า ยกตัวอย่าง

“ยาสมุนไพรพื้นบ้าน” สำหรับใช้รักษาอาการป่วย เช่น ยาหอม ยาแก้ปวดเมื่อย
“ผลิตภัณฑ์แปรรูป” เช่น น้ำมันหอมระเหย สบู่สมุนไพร ยาดม และชาสมุนไพร
“การฟื้นฟูสุขภาพด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น” เช่น การอบไอน้ำสมุนไพร การประคบสมุนไพร

สำหรับตัวอย่างสมุนไพรพื้นถิ่นที่สำคัญในพื้นที่ ได้แก่

1. กระชายดำ-บำรุงกำลัง แก้อาการอ่อนเพลีย
2. ฟ้าทะลายโจร-รักษาอาการหวัด เสริมภูมิคุ้มกัน
3. ไพล-แก้ปวด ลดการอักเสบ ใช้ในผลิตภัณฑ์ประคบสมุนไพร
4. ขมิ้นชัน-ช่วยเรื่องระบบย่อยอาหาร และบำรุงผิวพรรณ
และ 5. เปลือกต้นไม้พื้นเมือง เช่น เปลือกต้นตะเคียนหรือมะคำไก่ มีสรรพคุณในการฟอกเลือดและบำรุงร่างกาย

อย่างไรก็ตาม ชุมชนยังมีแนวคิดถ่ายทอดองค์ความรู้ ด้วยการจัดอบรม พร้อมผลักดันกิจกรรมส่งเสริมความรู้ด้านสมุนไพร เช่น การปลูกสมุนไพรในครัวเรือน การแปรรูปผลิตภัณฑ์สมุนไพรเพื่อสร้างรายได้ไปยังนักท่องเที่ยวและคนรุ่นใหม่ที่มาเยือนด้วย