ณ บริเวณศาลหลักเมืองจังหวัดสระแก้ว และ ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว นายเชาวเนตร ยิ้มประเสริฐ นายภูมิวัชร์ อุดมทรัพย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว พ.ต.อ.จตุรภัทร สิงหัษฐิต รอง ผบก.ภ.จว.สระแก้ว พ.อ.ชัยณรงค์ กาสี ผบ.ร.12 รอ. พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการส่วนท้องถิ่น และประชาชนทุกหมู่เหล่าร่วมในพิธีบวงสรวงศาลหลักเมืองจังหวัดสระแก้ว จัดพิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 พิธีบวงสรวงพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช พิธีบวงสรวงพระสยามเทวาธิราชจำลอง รวมทั้งกล่าวรำลึกวันคล้ายวันสถาปนาจังหวัดสระแก้ว ครบรอบ 31 ปี ตามที่มีพระราชบัญญัติตั้งจังหวัดสระแก้วขึ้น เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม พุทธศักราช 2536
โดยเป็นจังหวัดที่ 74 ของประเทศไทย จังหวัดสระแก้วได้กำหนดให้วันที่ 1 ธันวาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสถาปนาจังหวัดสระแก้ว ความเป็นมาของจังหวัดสระแก้วมีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่ในอดีต รวมถึงความสำคัญทางประวัติศาสตร์ ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช เมื่อครั้งทรงพระยศสมเด็จเจ้าพระยามหากษัตริย์ศึก ได้รับมอบหมายจากพระเจ้ากรุงธนบุรี ให้ยกทัพไปปราบปรามความไม่สงบในกัมพูชา ขณะที่ยกทัพมาถึงเขตจังหวัดสระแก้วในปัจจุบัน ได้แวะพักที่บริเวณ “สระแก้ว–สระขวัญ” ก่อนที่จะยกทัพไปตีเสียมราฐ และเมื่อยกทัพไปถึงก็สามารถจัดการความไม่สงบในกัมพูชาได้สำเร็จ สระแก้ว-สระขวัญ จึงเป็นสัญลักษณ์ของความศักดิ์สิทธิ์เป็นสิริมงคล และทางราชการได้นำน้ำจากสระน้ำดังกล่าว มากระทำพิธีถือน้ำศักดิ์สิทธิ์พิพัฒน์สัตยา จึงได้มีการนำคำว่า “สระแก้ว” มาเป็นนามมงคล จัดตั้งขึ้นเป็น “จังหวัดสระแก้ว” ในปัจจุบัน ดังนั้นประชาชนในจังหวัดสระแก้วจึงได้พร้อมใจกัน ร่วมมือ ร่วมแรง ร่วมใจ จัดสร้างศาลหลักเมืองประจำจังหวัดสระแก้วขึ้น เพื่อเป็นสัญลักษณ์แห่งความจงรักภักดีที่มีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ และเป็นศูนย์รวมขวัญกำลังใจและความรัก สมัครสมานสามัคคีในหมู่ชาวจังหวัดสระแก้ว สืบต่อมาจนถึงปัจจุบันนี้