สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวถึงการที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ อภัยโทษให้แก่นายฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชาย ว่าเป็น “การละเมิดอำนาจและความล้มเหลวของกระบวนการยุติธรรม”
อย่างไรก็ตาม ทรัมป์มีแผนอภัยโทษ ให้แก่ผู้สนับสนุนของตัวเองหลายคน ซึ่งอยู่ในเรือนจำ ฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุจลาจลที่รัฐสภา ในกรุงวอชิงตัน เมื่อวันที่ 6 ม.ค. 2564
ทั้งนี้ ทำเนียบขาวออกแถลงการณ์ ว่าประธานาธิบดีโจ ไบเดน ลงนามในคำสั่งอภัยโทษให้แก่บุตรชาย กรณีไม่จ่ายภาษีอย่างน้อย 1.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 48.17 ล้านบาท) ระหว่างปี 2559-2562 และการให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการซื้ออาวุธปืน เมื่อปี 2561 ทั้งที่อยู่ในสถานะ “บุคคลต้องห้าม” เนื่องจากมีประวัติใช้ยาเสพติดโดยไม่ได้รับอนุญาต
อนึ่ง อัยการสั่งฟ้องฮันเตอร์ในคดีให้ข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการครอบครองอาวุธปืน เมื่อต้นปีนี้ ส่วนคดีหลบเลี่ยงภาษี เจ้าตัวให้การรับสารภาพต่อศาล เมื่อเดือน ก.ย. ที่ผ่านมา แต่ผู้พิพากษายังไม่ได้ตัดสินโทษ ซึ่งคดีหนีภาษีมีบทลงโทษจำคุกนานสูงสุด 17 ปี และคดีให้การเท็จเกี่ยวกับการครอบครองปืน มีบทลงโทษจำคุกนานสูงสุด 25 ปี
แม้ไบเดน ซึ่งกำลังจะหมดวาระในวันที่ 20 ม.ค. 2568 กล่าวว่า มีจุดยืนชัดเจนที่จะไม่แทรกแซงกระบวนการยุติธรรม แต่คดีความของฮันเตอร์ “เกิดขึ้นอย่างไม่ยุติธรรม และเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง” พร้อมทั้งขอให้ชาวอเมริกัน “เข้าใจ” การตัดสินใจครั้งนี้ของเขา
ขณะที่ฮันเตอร์ วัย 54 ปี ออกแถลงการณ์ผ่านสื่อ ว่าสิ่งที่เขาทำลงไปนั้น “คือความอับอายขายหน้าของตระกูลไบเดน” และกล่าวว่า ทราบดีว่าไม่สมควรได้รับการอภัยโทษครั้งนี้ พร้อมทั้งขอโอกาสจากสังคม ในการช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยากต่อไป
อนึ่ง ไบเดนไม่ใช่ผู้นำสหรัฐคนแรกที่อภัยโทษบุคคลในครอบครัว หรือเครือญาติ ประธานาธิบดีบิล คลินตัน เคยอภัยโทษให้แก่ลูกพี่ลูกน้องจากคดีเกี่ยวกับโคเคน และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อภัยโทษให้แก่บิดาของบุตรเขย จากคดีเกี่ยวกับภาษี.
เครดิตภาพ : AFP