สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงดามัสกัส ประเทศซีเรีย เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ว่า องค์กรสังเกตการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนซีเรีย (เอสโอเอชอาร์) รายงานว่า กองกำลังนักรบจีฮัดชื่อ “ฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม” และกองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลซีเรียหลายกลุ่ม ซึ่งได้รับความสนับสนุนจากตุรกี ร่วมกันยึดพื้นที่ส่วนใหญ่ในเมืองอเลปโป อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือ และเป็นเมืองใหญ่อันดับสองของซีเรีย โดยรวมถึงสำนักงานของรัฐ และเรือนจำกลางด้วย


ทั้งนี้ กลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม เป็นเครือข่ายในซีเรียของกลุ่มอัล-กออิดะห์ ปัจจุบันมีเขตอิทธิพลในพื้นที่บางแห่งของจังหวัดอิดลิบ จังหวัดฮามา และจังหวัดลาตาเคีย ด้วย

ภาพถ่ายจากมุมสูงของเมืองอเลปโป ซึ่งเป็นเมืองเอกของจังหวัดอเลปโป ทางตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย ซึ่งมีกลุ่มควันพวยพุ่งจากการสู้รบระลอกใหม่

ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิต นับตั้งแต่ปฏิบัติการจู่โจมแบบสายฟ้าแลบของกลุ่มฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม และแนวร่วม เปิดฉากเมื่อช่วงกลางสัปดาห์นี้ เพิ่มเป็นอย่างน้อย 311 ราย ในจำนวนนี้อย่างน้อย 183 ราย เป็นสมาชิกของฮายัต ตาห์รีร์ อัล-ชาม และพันธมิตร ราว 100 ราย เป็นทหารและนักรบฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล และมีพลเรือนด้วยอย่างน้อย 28 ราย โดยพลเรือนส่วนใหญ่เสียชีวิต จากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศโต้กลับของกองทัพรัสเซีย


สถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นการจู่โจมฐานที่มั่นของรัฐบาลซีเรียโดยฝ่ายต่อต้าน ครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี และนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี 2559 ที่กองกำลังฝ่ายต่อต้านรัฐบาลสามารถกลับเข้าสู่เมืองอเลปโปได้อีกครั้ง หลังถูกทหารและกองกำลังสนับสนุนรัฐบาลผลักดันออกไป


ด้านนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกทำเนียบเครมลิน กล่าวว่า สถานการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นกับเมืองอเลปโป เป็นการล่วงละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของซีเรีย “อย่างร้ายแรง” และยืนยันว่า รัฐบาลมอสโกจะมอบความสนับสนุนให้แก่รัฐบาลดามัสกัส ในการกระชับพื้นที่กลับคืน


อนึ่ง สงครามกลางเมืองในซีเรียปะทุเมื่อเดือน มี.ค. 2554 จากการประท้วงขับไล่ประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด และทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง เมื่อหลายฝ่ายจากต่างประเทศเข้ามามีบทบาท ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐและพันธมิตรตะวันตก ตุรกี และรัสเซีย โดยรัฐบาลมอสโกเข้ามาให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ฝ่ายรัฐบาล จนสามารถยึดคืนพื้นที่ได้อย่างต่อเนื่อง.

เครดิตภาพ : AFP