เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจพรรคภูมิใจไทย (ภท.) นำเสนอ คลิป 6 ตอน เกี่ยวกับการ “เวิร์กช็อป ปฏิวัติการศึกษา พ.ร.บ.การศึกษาเท่าเทียม” โดยมีเนื้อหา ในเรื่อง Painpoint การศึกษาไทย ที่จะแก้ไขปัญหาด้วยการนำเสนอร่าง พ.ร.บ.การศึกษาเท่าเทียม ที่จะบรรจุ 3 แพลตฟอร์มสำคัญ คือ แพลตฟอร์มเรียนรู้ออนไลน์ แพลตฟอร์มเครดิตแบงก์ และแพลตฟอร์ม Portfolio
นายไชยชนก ชิดชอบ สส.บุรีรัมย์ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยถึงการเคลื่อนไหว ว่า เป็นผลมาจากการจัดเวิร์กช็อปครั้งแรกของพรรคภูมิใจไทย ที่มีส่วนร่วมของภาคประชาชนมากที่สุด นับตั้งแต่จัดตั้งพรรคขึ้นมา เป็นอีเวนต์แรกที่ถูกจัดทำขึ้นโดยคณะกรรมการชุดใหม่พรรคภูมิใจไทย มีน้องๆ นักศึกษา มาแชร์ความคิดเห็นร่วมวงกับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นเอกชนที่สะท้อนความคิดเห็น สนใจในการที่จะมีส่วนร่วมจริงๆ ที่จะทำให้ทั้ง 3 แพลตฟอร์มสำคัญ ถูกขับเคลื่อนไปในแบบที่มีประโยชน์ที่สุดต่อพี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืน
“ทุกๆ สิ่ง ทุกๆ อย่างที่ได้สะท้อนมา จะนำกลับไปรวบรวม พิจารณา ประกอบเป็น พ.ร.บ.การศึกษาเท่าเทียม ที่สมบูรณ์ยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน เราต้องการเปิดให้มีส่วนร่วม สร้างความเปลี่ยนแปลงในระบบการศึกษาไทย เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของการปฏิวัติการศึกษา” นายไชยชนก กล่าว
ด้านนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้สรุปปัญหาที่เจ็บปวดของการศึกษาไทย ว่า ปัญหาที่เห็นได้ชัดในเรื่องจัดการการศึกษาคือเศรษฐสภาพ ต้องยอมรับว่า งบประมาณในการจัดสรรสำหรับการศึกษาน้อยมาก ผู้ปกครองมีภาระสูง เปิดเทอม 1 ครั้ง โรงรับจำนำเพิ่มวงเงินเต็มไปหมด ผู้ปกครองไม่ได้ดูแลเฉพาะค่าเรียน แต่ยังมีค่าอาหาร ค่าเรียนพิเศษ เงินเดือน 7,000 บาท ส่งลูกกวดวิชาเดือนละ 12,000 บาท ซึ่งภาระทางการศึกษาทำให้เกิดหนี้ครัวเรือนสูงถึง ร้อยละ 36.13 หลักสูตรในปัจจุบัน กระบวนการในการทำให้เกิดการเรียนรู้อาจจะยังไม่ทันสมัย ไม่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาด ปัญหาการขาดแคลนครู ต้องบรรจุครูเพิ่มอีก 50,000 กว่าตำแหน่ง ก็ยังไม่การันตีว่าครูครบชั้นแล้วเป็นเลิศหรือไม่เป็นเลิศ
นายวรศิษฎ์ เลียงประสิทธิ์ สส.สตูล กรรมการบริหารพรรค กล่าวว่า การจะแก้ปัญหาการศึกษาด้วยการนำเสนอ พ.ร.บ.การศึกษาเท่าเทียม โดยจะมี “แพลตฟอร์มการเรียนรู้ออนไลน์” เพื่อให้ทุกคนจะเรียนได้ โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยบรรจุวิชาตามหลักสูตร วิชาพิเศษ และการติววิชาต่างๆ โดยแพลตฟอร์มนี้จะเป็นเครื่องมือช่วยเสริมให้การศึกษาระบบเดิมมีความแข็งแรงและสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น สร้างความเท่าเทียม ฟรี เข้าถึงได้ทุกที่ ทุกเวลา ลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน
นายกรวีร์ ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย ระบุถึง “แพลตฟอร์มธนาคารหน่วยกิตกลาง” จะเป็นที่เก็บเอาทุกหน่วยกิต ที่เราได้เรียน เติมเข้าไปในและคนที่ไปเรียนรายวิชา เรียนเสร็จแล้วเก็บสะสมเอาไว้ เมื่อครบหน่วยสามารถที่จะเปลี่ยนไปเป็นวุฒิการศึกษาสามารถเข้าไปเรียนต่อในมหาวิทยาลัยได้ มีคนที่มีฝีมืออีกมากที่อายุเกินกว่าจะไปนั่งเรียน แต่เขามีฝีมือ มีประสบการณ์ แต่ไม่มีปริญญา เราจะเปิดโอกาสให้คนเหล่านี้ สามารถเข้าถึงการศึกษา ซึ่งปลายทางของการศึกษาไม่ใช่เรื่องของวุฒิบัตร หรือปริญญาอย่างเดียวอีกต่อไป เราอยากเห็นการศึกษาและปริญญาที่พร้อมมากพอที่จะเลือกคนที่ถูกต้องเข้ามาตอบความต้องการของภาคเอกชนในอนาคต
ขณะที่ น.ส.แนน บุณย์ธิดา สมชัย โฆษกพรรคภูมิใจไทย ระบุถึงเรื่อง “แพลตฟอร์ม Portfolio” ว่า จะเป็นเหมือน Data Center ของคน เก็บรวบรวมทุกอย่างเอาไว้ โดยเริ่มจากผู้เข้าสู่ระบบการศึกษาในระดับชั้นประถม มัธยม เรียน หรือฝึกอบรม อะไรที่ผ่านการรับรองมาตรฐานกลางจะขึ้นใน Data Center จัดเก็บไว้ ซึ่งทำหน้าที่ประหนึ่งครูแนะแนวออนไลน์ สิ่งนี้จะใช้ตลอดจนถึงทำงาน นอกจากการเรียนในห้องเรียน เราจะมีสกิลเพิ่มเติมที่ตรงกับสายอาชีพนั้น และพอถึงชั้นมหาวิทยาลัย จะกลายเป็น Resume สิ่งที่จะบรรจุเข้าไปต้องได้รับการรับรองในการเรียนต่างๆ ไม่ว่าจะกระทรวงศึกษาธิการ หรือกระทรวง อว. หรือกระทรวงแรงงาน และเมื่อถึงช่วงวัยทำงาน อยากจะพัฒนาตนเอง เปลี่ยนสายงาน หรือเปลี่ยนที่ทำงาน เมื่อพัฒนาสกิล และรวบรวมไว้เป็นตัวช่วยในการที่จะยื่นใบสมัครงาน หรือจะพัฒนาจนได้ตำแหน่งขึ้นมา ไม่ใช่มาจากวุฒิอย่างเดียว แต่อาจจะเพิ่มสกิลเข้าไปด้วย
โดยคลิปแสดงให้เห็นว่า มีการประชุมกลุ่มย่อย (focus group) มีผู้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็น ทั้งจากภาคเอกชนชั้นนำในประเทศไทย และระดับโลก นิสิต นักศึกษา จากมหาวิทยาลัยชั้นนำ และอาจารย์ นักวิชาการ ในแวดวงการศึกษา.